pages bg right


วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

ลำดับเหตุการณ์ในเกม Granado Espada


ลำดับเนื้อเรื่องทั้งหมดนี้จะไม่รวมเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นในลอส โทดอท และเนื้อเรื่องทั้งหมดอาศัยความจำตอนทำเควสเนื้อเรื่องในเกม ดังนั้นหากผิดพลาดประการไหนก็ต้องขออภัยด้วย เนื้อเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้นั่งเทียนเขียนเองนะคับ

** คำเตือน กรุณาเล่นเกมนี้ให้ชำนาญด้วย ไม่งั้นอาจจะมึนได้ง่ายๆ


บทที่ 1



- กิลเบโต กรานาโด และ ท่านเค้าท์เฟอร์รุชชิโอ เอสปาดาได้ค้นพบทวีปใหม่ โดยตั้งชื่อว่า กรานาโด เอกพาด้า
- ท่านเค้าท์เฟอร์รุชชิโอได้รายงานการค้นพบทวีปใหม่ต่อ องค์ราชินีเวสปาโนล่า ในขณะเดียวกันเอง กิลเบโต กรานาโด ก็ได้รายงานเรื่องนี้ที่ประเทศบริสเทียเช่นกัน
- ทั้งคู่เริ่มขัดแย้งกันเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างไปบอกเร ื่องราวนี้ให้กับประเทศของฝ่ายตนเอง
- เริ่มการสำรวจ ท่านเค้าท์เฟอร์รุชชิโอและกิลเบโต ได้เริ่มทำการสำรวจโดยมีกลุ่มคนนักสำรวจกลุ่มแรกราวๆ 90 คน
- ท่านเค้าท์เฟอร์รุชชิโอประวัติยังเป็นความลับ แต่เขาท่านได้ใช้พลังของท่านในการผลึกสิ่งชั่วร้ายต่ างๆนาๆในทวีปใหม่ โดยทีมนักสำรวจของท่านได้เรียกมันว่า "มรดกของเฟอร์รุชชิโอ"
- กิลเบโตไม่พอใจที่เฟอร์รุชชิโอนำพลังนี้ไปผนึกตามที่ ต่างๆ โดยเหตุผลของกิลเบโตก็คือน่าจะเอาพลังนี้ไปใช้ในการค รองครองทวีปใหม่
- ต่อมาทั้งสองหักหลัง โดยนักสำรวจที่ยังสำรวจต่อไปยังคงสำรวจต่อไป บ้างก็หายสาบสูญ บ้างก็ตายจากไป
- เวสปาโนล่าเริ่มประกาศที่จะให้ประเทศตนเองครอบครองสิ ทธิในการปกครองทวีปใหม่ ในขณะเดียวกันที่บริสเทียก็ต้องการครอบครองทวีปใหม่ด ้วย โดยทั้ง 2 ประเทศอ้างสิทธิในการปกครองโดยท่านกิลเบโต กรานาโด และเค้าท์เฟอร์รุชชิโอ เอสปาด้า
- ทั้งสองประเทศได้เริ่มประกาศสงคราม
- บุคคลผู้นำสงครามของฝ่ายเวสปาโนล่าก็คือ เคิร์ก ลินคอน ส่วนบุลคลของฝ่ายบริสเทียก็คือ เกรช , กราเชีย ฮินกิส , เอดัวร์โด ฮินกิส และ เซลวา นอร์ท
- กองทัพแสนยานุภาพของบริสเทียมีมากกว่าเวสปาโนล่า จนทำให้บริสเทียได้เปรียบในสงคราม
- มอนโตโร หนึ่งในสิบขุนนาง บุคคลชั้นสูงของเวเนสโปล่า ได้ขายวิญญาณของตนเองให้กับมนต์ดำเพื่อเปลี่ยนร่างตน เองให้เป็นปีศาจ จุดประสงค์นอกจากให้ตนเองมีพลังอำนาจให้เวสปาโนล่ามี ชัยเหนือบริสเทียก็คือ ให้ตนมีคงรูปลักษณะสวยงามดังผู้หญิง
- คณะนักสำรวจของเฟอร์รุชชิโอค้นพบทิศเหนือของที่ราบสู งจาควิน
- โนเวียก็ได้ขายวิญญาณเช่นกัน และได้ใช้อำนาจของเธอในการทำให้ที่ราบตอนเหนือกลายเป ็นทุ่งนํ้าแข็ง นักสำรวจของเฟอร์รุชิโอได้ใช้พลังของมรดกเฟอร์รุชชิโ อในการผนึกพลังของโนเวีย โดยต้องแลกด้วยชีวิต แต่สายเกินไป ที่ราบทางตอนเหนือกลายเป็นทุ่งราบนํ้าแข็งถาวร
- ชาวบ้านแถบที่ราบตอนเหนือเสียชีวิตจากอากาศที่หนาวเห น็บและมอนเตอ์ร์ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมจากพลังเวทย์ของ โนเวีย เหล่านักสำรวจใช้มรกดของเฟอร์รุชชิโอในการสร้างกำแพง ขนาดยักษ์เพื่อผนึกเวทย์ของโนเวียไม่ให้พลังนํ้าแข็ง ไหลออกมา โดยตั้งชื่อว่า รั้วเฟอร์รุชชิโอ
- แคทเทอรีน ลูกสาวของ ดร. ท็อช เสียชีวิตด้วยโรคระบาด
- มอนโตโรหลังจากขาดการติดต่อกับโนเวีย ได้ติดต่อกับเวสปาโนล่าในการนำนักโทษมาขังรวมกันในที ่ราบสูงจาควิน โดยตั้งชื่อว่า "เรือนจำจาควิน"
- ดร.ท็อช , ดร.ฟราน และ อูริค (ปู่ของวิกิ) ได้รับคำสั่งจากเวสปาโนล่าในการคิดค้นอาวุธในการต่อก รบริสเทีย (ยังสู้กันอยู่)
- เรือนจำจาควินสร้างเสร็จสมบูรณ์และเริ่มมีการขนย้ายน ักโทษผ่านทางจุดวาร์ป ระหว่างนั้นมีทหารและนักรบที่หลีกหนีสงครามมาที่เรือ นจำจาควิน
- พ่อของเอมิเลียเดินทางไปยังทวีัปซีอาร์ พบกับนาร์ในการสำรวจ แต่กลับหายสาบสูญไป
- ดร.ท็อชและอูริครู้ความจริงเรื่องของอาวุธชิ้นนี้ โดยผลงานของ ดร.ท็อชและของอูริค ได้แก่ พลังจากแร่โอไทต์ และ พลังในการปลุกชีพโกเลม ในการเอามาใช้ประโยชน์ในสงคราม ผลงานของ ดร.ท็อชฝ่ายเวสปาโนล่าได้ขโมยไปส่วนหนึ่ง ส่วนอูริครู้ทันจึงได้ทำลายเอกสารทั้งหมด แต่เชอร์รินรู้ความลับจนได้
- เอดัวร์โดเริ่มสังเกตถึงความผิดปกติของเรือนจำจาควิน เลยได้บอกลา เซลวา นอร์ทและน้องชายตนเองและลอบเข้าไปในเรือนจำจาควิน
- มอนโตโรใช้หมู่บ้านเล็กๆทางตอนเหนือของปอโต เบลโล ทดลองอาวุธสงคราม จนทำให้หมู่บ้านนั้นกลายเป็นดินแดนแห่งความตาย
- ดร.ท็อชและอูริค ตัดสินใจหนีมายังทวีปใหม่ โดยอูริคได้พาวิกิหนีออกมาด้วย
- ข่าวลือเรื่องทวีปใหม่เริ่มแพร่กระจายไปยังหมู่ชน (ข่าวการเปิดตัวเกม GE ของ AS )
- ดร.ฟรานโดนมอนโดโรบังคับให้ทดลองอาวุธใหม่ที่เรือนจำ จาควิน ข้อบังคับคือ ไม่ทำคือตาย และมอนโดโรได้ปิดผนึกเรือนจำจาควินถาวร ทำให้เหล่านักโทษและเอดัวร์โดโดนขังอยู่ในนั้น
- ดร.ท็อชและอูริคหลบหนีมายังทวีปใหม่ได้สำเร็จ
- สามีและลูกชายของอเดลิน่าโดนโจรสลัด กิลเลอร์โม ฆ่าตาย
- ภายในเรือนจำจาควิน มอนโดโรได้ใช้มนต์ตนเองทำให้นักโทษกลายเป็นบ้า หันมาฆ่าฟันกันเอง คนที่ไม่โดนแต่ก็ต้องกินนักโทษด้วยกันเองเป็นอาหาร ในที่สุดก็เป็นไปกับพวกมัน จิตใจของนักโทษจึงมีแต่ความโหด*ม และดร.ฟรานได้ดึงวิญญาณที่มีจิตอาฆาตแค้นเอามาเป็นพล ังงานของอาวุธ เอดัวร์โดเข้ามาขัดขวางซึ่งมอนโดโรก็ออกมาต่อสู้ แต่มอนโดโรใช้ความเจ้าเล่ห์ ร่ายมนต์ใส่เอดัวร์โดจนพลาดท่า เอดัวร์โดโดนมนต์ของมอนโดโรจนสูญเสียความทรงจำไป
- อาวุธใหม่สร้างเสร็จสมบูรณ์ และเวสปาโนล่าได้ใช้อาวุธนี้โจมตีบริสเทียจนมีชัย
- เคิร์ก ลินคอน รู้ถึงแผนการสกปรกนี้
- เวสปาโนล่าได้อ้างสิทธิในการครอบครองทวีปใหม่อย่างสม บูรณ์
- ได้มีการส่งคนไปก่อสร้างที่อยู่อาศัยและที่พักในการร องรับนักสำรวจ รวมทั้งลีโอนาโด เอกเพสโซ ด้วย (เกม GE ช่วง Close Beta)
- มีการค้นพบอัศทิวต์
- เชอร์ ลินคอน หวังปลิดชีพเคิร์ก แต่เขาหลบหนีออกมาได้
- เหล่าทหารและนักรบจากบริสเทียที่รอดชีวิตจากสงครามได ้มารวมตัวที่ลอสโทดอท โดยมีเคิร์กเป็นผู้นำ
- ไซม่อน อเยน ได้ถูกส่งไปเพื่อปกครองทวีปใหม่ ระหว่างนี้ไซม่อนได้พากราเชีย ฮินกิส ไปด้วย โดยการแอบพาไปเนื่องจากฮินกิสเป็นคนจากบริสเทีย โดยฮินกิสเริ่มสืบหาพี่ชายของเขาที่เรือนจำจาควิค
- เชอร์ลินคอนสำรวจเรือนจำจาควินและพบเอดัวร์โดในสภาพป างตาย จึงได้ช่วยชีวิตและใช้ให้ตามเคิร์ก ลินคอน ไป เพื่อใช้สืบว่าเคิร์กคิดจะทำอะไร
- นักสำรวจเริ่มทยอยเข้ามาที่ทวีปใหม่ (เกมเปิด OPEN )

############################################################################

บทที่ 2


- เริ่มการก่อสร้างรูปปั้นท่านเค้าท์เฟอร์รุชชิโอ
- ไซม่อน อเยน ก่อตั้งฝ่ายสภาอิสระ
- แจ็ค ได้เริ่มมาทำงานที่เหมืองถ่านหินรีบอร์โดซ์
- เริ่มมีการก่อสร้างเมืองอุช
- ดร.ท็อชสร้างคฤหาสต์ของตนเองได้สำเร็จและเริ่มทำการว ิจัยเพื่อชุบชีวิตแคทเทอรีน
- ตัวละครเราในเกมกำลังนั่งเรือเพื่อเดินทางมาทวีปใหม่ และทำความรู้จักกับนาจิป
- เยเกณฑ์ถูกปล่อยออกจากคุกเนื่องจากครบวาระพ้นผิด
- เชอร์ ลินคอนประจำการที่กองอำนวยการนักสำรวจรีบอโดซ์
- เริ่มมีการขยายการติดตั้งอนุสรณ์ท่านเค้าท์เฟอร์รุชิ โอตามสถานที่ต่างๆทั่วทวีป ยกเว้น ในเรือนจำจาควิน , ที่ราบเพลิงยันแดนภูติหิมะ , บาฮามา และทัปกัล
- อิจด์ได้มาตั้งร้านอัพเกรดที่เมืองรีบอโดซ์และได้เรี ยนพิเศษในการตีดาบกับครูดส์
- ตัวละครเราไปลงทะเบียนที่กองอำนวยการนักสำรวจ
- ลอช , วินเซนเต้ , กรูทูด ได้มาปักหลักที่เมืองอุช
- มอนโดโรได้ไปซ่อนตัวอยู่ที่อัศทิวต์ โดยใช้มนต์ตนเองในการสร้างกองทัพโครงกระดูก
- ตัวละครเราได้รับคำสั่งจากเชอร์ลินคอนให้ไปขัดขวางกา รวางระเบิดรูปปั้นท่านเค้าท์เฟอร์รุชชิโอและได้รู้จั กกับฝ่ายสภาในทางร้ายๆจากการให้การของเชอร์ ลินคอน
- เชอร์ลินเข้าไปปักหลักและทดลองสร้างโกเลมตามแบบของอู ริคที่โบราณสถานเดตรา
- ข่าวลือเรื่องบาทหลวงดิลอส ลาเทมน์ ได้เข้าหูพวกเราและอังเดรได้ให้เราเอาผ้าขาวไปวางไว้ เพื่อไว้อาลัยแด่ศพ แต่เราเกิดภาพนิมิตถึงเหตุการณ์ที่ดิลอส ลาเทมน์ได้ใช้วิญญาณตนเองในการผนึกทางเข้าออกของอัลเ ควส มอเรนซ่า และ เขาวงกตที่ถูกลืม
- นักสำรวจของเฟอร์รุชชิโอค้นพบที่อยู่ของลาวาลีฟและใช ้พลังของมรดกเฟอร์รุชชิโอในการผนึกมันไว้
- ไอราวัณรอดชีวิตจากพายุกลางทะเลและมาโผล่ที่ท่าเรือโ คอิมบรา
- ข่าวลือเรื่องที่ตัวละครเราพิชิตอัลเควส มอเรนซ่า ได้แพร่กระจายจนเริ่มเป็นที่รู้จักในทวีปใหม่
- เกรชได้มาปักหลักที่โคอิมบรา
- เจ้าหญิงกาเบียรลาเสด็จมาประทับที่เมืองรีบอโดซ์
- มีการก่อตั้งเพนกาดิล่า ทหารรับจ้างที่ทำทุกอย่างเพื่อเงิน
- เชอร์ ลินคอน มอบหมายให้เราไปสำรวจที่โคอิมบราต่อ

############################################################################
บทที่ 3



- ตัวละครเราเดินทางมาถึงเมืองโคอิมบราและทำความรู้จัก กับเรือเอกนิวเนส (โดยเต้าหู้ช็อตโกแลต - - *)
- อเดลิน่าเปิดร้านขายของที่โคอิมบรา
- เยเกณฑ์รับงานที่หุบเขาเดตรา
- กราเชียโลออกอาละวาดที่ร้านขายของชำคามิลล์
- ตัวละครเราพบกับเกรชและร่วมมือกับสืบค้นหาความลับของ โบราณสถานเดตรา
- ดร.ท็อชเริ่มออกมาเยี่ยมอูริคทุกวันพุธ
- กราเชียโลพบกับฟลิตท์เป็นครั้งแรก
- มอนเตอร์จากเดตราและปอโต เบลโล เริ่มแห่มาที่เมืองโคอิมบรา โดยตัวละครเราสกัดไว้ได้
- แหล่งกบดานของมอนโดโรที่อัศทิตว์กลายเป็นรังโครงกระด ูก
- ดร. ฟรานที่ยังคงรอดชีวิตในเรือนจำจาควินเริ่มทดลองสร้าง คริซาลิส
- ตัวละครเราและเกรชพบกับแม่มดเชอร์ลินที่โบราณสถานเดต ราและเริ่มรู้ความชั่วร้ายของเวสปาโนล่า
- คณะนักสำรวจขององค์ราชินี เกรนม่า คณะ ได้มาปักหลักที่อัศทิวต์ โดยโรมิน่าตามมาสมทบทีหลัง
- กราเชียโลฆ่าพี่ชายของคามิลล์ตาย
- อเดลิน่าเริ่มทำการแก้แค้น
- ตัวละครเราสำรวจปอโต เบลโล
- กราเชียโลฝึกฝนวิชาการต่อสู้กับฟลิตซ์
- นิวเนสแนะนำให้เราไปสำรวจที่เมืองอุชต่อ

############################################################################

บทที่ 4



- ข่าวลือเรื่องของคฤหาสต์ผีสิงแพร่ไปทั่วทวีปใหม่
- กรูทูดเรื่องสืบเรื่องของเชอร์ ลินคอน
- แบคโฮมาที่ทวีปใหม่เพราะต้องการพบกับอาจารย์ฟลิตซ์ตั วปลอม (มอนโดโร)
- ตัวละครเราไปสำรวจคฤหาสต์ ดร.ท็อช
- มอนโดโรปรากฎตัวที่ดินแดนแห่งความตาย
- ตัวละครเราช่วยเหลือ ดร.ท็อชในการชุบชีวิตแคทเทอรีน
- กองกำลังของสาธรารณรัฐ (สภาอิสระ) เริ่มยึดเสาโคโลนี
- ลอชเริ่มมีปัญหากับคนในครอบครัวเขา (พ่อใช้มาตามให้กลับบ้าน)
- ค่ายทหารอัศทิวต์สร้างเสร็จสมบูรณ์แต่ก็ยังโดนโจมตีจ ากไดโนเสาร์เรื่อยๆ
- เกรชขอร้องให้เราไปสำรวจที่เรือนจำจาควินและพบกับกรา เชีย ฮินกิส และ ดร.ฟราน รวมทั้งมอนโดโรร่างจำแลง
- เชอร์ลินคอนเริ่มส่งนักสังหารตามล่าเอดัวร์โดและเคิร ์กเพราะเอดัวร์โดหายไปนานเกินที่กำหนด ไม่มั่นใจว่าได้จ้างทหารรับจ้างเพนกาดิลล่าไหม แต่ที่รู้ๆคือไม่เจอ
- กรูทูดจ้างเราสืบเรื่องของเชอร์ลินคอน (เป็นช่วงที่เชอร์ลินคอนไม่ได้อยู่ที่กองอำนวยการนัก สำรวจพอดี) แต่ข้าราขการโดมิงโกเตือนแบบขู่ว่าหากเรายังยืนกรานท ี่จะสืบ อีกวันจะมีประกาศจับตัวเราทันที
- เริ่มมีการค้นพบที่ราบทัปกัล
- องราชินีเวสปาโนล่ามีพระราชดำรัสให้นักสำรวจไปช่วยสำ รวจที่อัศทัวต์ จึงเริ่มมีการก่อสร้างที่พักของนักสำรวจ
- ตัวละครเราทำความรู้จักกับอูริคและวิกิ และได้พบกับแม่มดเชอร์ลินอีกครั้ง แต่เอาชนะได้ (และได้วิกิมาร่วมเดินทางกับเรา)
- ทวีปเซเตดรามล่มสลาย อาเนียรอดชีวิตมาได้ และพบกับนาร์
- เริ่มมีการประกาศการรับคณะนักสำรวจเข้าร่วมฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายจักรพรรดิและฝ่ายสภา
- โนเวียได้ปลดปล่อยตนเองออกมาจากการกักขังของพลังมรดก เฟอร์รุชชิโอสำเร็จ แต่ไม่สามารถใช้พลังตนเองในการคลายผนึกได้อย่างสมบูร ณ์ จึงได้ร่ายเวทย์สร้างหอคอยภูติหิมะเพื่อปกป้องตนเองแ ละนำศพของเด็กหญิงมาแช่แข็งขู่ไว้หน้าทางเข้า ในขณะที่อินเวียโนเริ่มไปปักหลักที่ทุ่งนํ้าแข็งเทโค วิคเพื่อปกป้องพลังของที่ปลดผนึกโนเวีย
- ตัวละครเราไปสำรวจที่อัศทิวต์
- กองกำลังทหารเรศคิวไนท์ตั้งค่ายที่ดินแดนสีขาว เทโควิค

############################################################################

บทที่ 5

- พบเกรนม่าและโรมิน่าที่ค่ายทหารอัศทิวต์ และเริ่มทำการสำรวจอัศทิตว์ ระหว่างนี้เราโดนตัดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
- มีการสำรวจเหมืองคาพิบาร่าแต่นักสำรวจไปได้แค่ชั้นแร ก
- เรือนจำจาควินเริ่มมีมอนเตอร์อาลาวาดหนักขึ้น
- เคิร์กรวบรวมฝ่ายฆาตรกรและเริ่มสืบหามอนโดโรที่ดินแด นแห่งความตายโดยมีเอดัวร์โดช่วย
- มีคนรายงานว่าพบเห็นมอนโดโรที่หุบเขาปีศาจ
- โรมิน่าและเราได้บุกไปในรังโครงกระดูกและพบกับมอนโดโ รตัวจริง ก่อนที่โรมิน่าจะโดนมอนโดโรร่ายมนต์ใส่เพียงนิดเดียว เกรนม่าโผล่มาช่วยและได้ปรับความเข้าใจกัน ทว่า มอนโดโรหนีไปอีกครั้งและทิ้งร่างจำแลงเอาไว้ที่รังโค รงกระดูก
- เริ่มมีการสำรวจเกาะกิกันเต้
- เชอร์ลินคอนสั่งการให้เราไปร่วมสำรวจผืนป่าบาฮามากับ ขุนนางเอคอร์นี่และชารอน
- อุปสรรคสำคัญในการสำรวจบาฮามาก็คือแม่มดที่อาศัยอยู่ ที่บึงนิรันกาล และเราก็รู้ว่าพลังของอนุสรณ์สถานได้ปลุกให้มอนเตอร์ ในผืนป่าบาฮามาแข็งแกร่งขึ้นและโหดร้ายขึ้น รวมทั้งรู้ตัวตนของชารอน
- เซียร่าโดนชารอนลักพาตัว โชคดีที่ฟลิตซ์มาช่วยไว้ทัน แต่ชารอนกลับหนีไปได้
- เกรนม่าได้ส่งกำลังสนับสนุนเพื่อปราบปรามจาควิน ซี่งเราต้องจากเซียร่าไปชั่วคราว



- ปราบปรามเรือนจำจาควินสำเร็จ และพบกับกราเชีย ฮินกิสอีกครั้ง
- กองอำนวยการนักสำรวจมอบหมายให้เราไปจับกราเชีย ฮินกิส มาแต่ไซม่อนขอร้องให้เราไปพาฮินกิสมาหาเขาก่อนเพราะเ ขาเชื่อว่าฮินกิสไม่ใช่คนร้าย
- ที่รั้วฟารุชชิโอ เราได้พบกับเซลวา นอส อาจารย์ของฮินกิสและคู่หมั้นของเอดัวร์โด
- เรารู้จักกับ ลูสบิโอ และเริ่มทำการสำรวจดินแดนสีขาว
- เริ่มมีการก่อสร้างที่พักสำหรับนักสำรวจที่กิกันเต้
- ตัวละครเราพบเซลวา นอร์ท ที่ทุ่งนํ้าแข็งเคโทวิค และรู้ซึ้งถึงพลังของมรดกเฟอร์รุชชิโอ ระหว่างนั้นมอนโดโรโผล่ออกมาแย่งชิงผนึกปลดปล่อยโนเว ียไป
- ตัวละครเรา , กราเชียฮินกิส และ เซลวา นอร์ท ไปขัดขวางการปลดผนึกโนเวียสำเร็จ แต่มอนโดโรโจมตีใส่เซลวา นอร์ท ทว่า ฮินกิสเข้ามาขวางและโดนมนต์ไปเต็มๆ ส่วนมอนโดโรหลบหนีไปยังพื้นที่เซเตเดรม
- เมื่อเรารักษาฮินกิสสำเร็จและพาฮินกิสไปพบไซม่อน โดนฮินกิสขอร้องให้เรารับเขาเข้าร่วมทีมในการสำรวจเพ ื่อตบตากองอำนวยการนักสำรวจ
- มีการค้นพบ ซุปเปอร์ไฟร์
- ตัวละครเราสำรวจที่ราบทัปกัล
- อินเวียโนแอบติดต่อกับไซม่อนอย่างลับๆเพื่อเล่าเรื่อ งทั้งหมดให้ไซม่อนฟัง
- กิกันเต้เปิดสถานที่พักตากอากาศ กิกันเต้รีสอร์ท เพื่อให้นักสำรวจมาคลายความเหนื่อยล้และพักผ่อนบนเกาะ
- แม่มดเชอร์ลินร่วมมือกับคนงานเหมืองในการล่อวิกิออกมาเพื่อสังหาร ทว่ามีบุคคลลึบลับ 3 คนมาช่วย และหลังจากที่จัดการเชอร์ลินได้สำเร็จ วิกิได้ความสามารถในการเรียกโกเลมตัวใหม่



- มีนักสำรวจกลุ่มหนึ่ง (คนเล่น) ค้นพบทางเข้าสู่พื้นที่เซเตเดรม แต่มีโกเลมขนาดยักษ์ขวางทาง
- วินเซนเต้หลงรักลูกสาวของเฟดเดอริโก
- เคิร์กล่อเชอร์ ลินคอนออกมาด้วยกระเป๋าโอไทต์เพื่อสังหาร แต่เอดัวร์โดออกมาขัดขวางและโจมตีทั้งคู่
- เริ่มมีคำสั่งในการให้นักสำรวจเข้าไปสำรวจที่เซเตเดคราม

############################################################################

โศกนาฎกรรมเรือนจำจาควิน

เดิมที่ที่ราบจาควินเป็นที่ราบบนเชิงเขาที่แห้งแล้งเ นื่องจากการเกิดของภูเขาไฟที่มีสิทธิประทุได้ตลอดเวลา มีจุดหนึ่งที่มีโพรงที่เชื่อมต่อเข้าไปในภูเขาไฟ มอนโดโรเห็นจุดนี้เป็นประโยชน์จึงได้เสนอให้ทางสิบขุ นนางแห่งราชวงศ์เวสปาโนล่าเพื่อสร้างเป็นเรือนจำจาคว ิน ตอนนั้นเวสปาโนล่ากับบริสเทียยังไม่ทำสงครามกัน เพียงแต่กำลังมีการเจรจากันแต่ยังมีความไม่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย เหตุผลที่มอนโดโรเสนอก็คือ "ทำเพื่อประเทศของเรา"
โครงการนี้จึงได้รับการอนุมัติ
สาเหตุที่เรือนจำจาควินสามารถทนต่อลาวาของภูเขาไฟได้ เพราะเวทมนต์เป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง
เหล่านักโทษสงครามที่เวสปาโนล่าเคยกวาดมาได้และนักโท ษของเวสปาโนล่าเองได้รับการเคลื่อนย้ายมายังเรือนจำจ าควินผ่านทางจุดวาร์ป ซึ่งข้อเสนอของนักโทษเหล่านั้นตอบรับด้วยความยินดีเพ ราะสถานที่ใหม่นั้นกว้างกว่าเดิมมากและมีการอนุญาติใ ห้เดินออกมาจากห้องขังได้อย่างอิสระ เพียงแต่ห้ามออกมาจากเรือนจำเท่านั้น และจะไม่มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวอะไรทั้งสิ้น
จุดแรกเริ่มแห่งความหายนะก็คือตอนกำลังเคลื่อนย้ายนั กโทษไปยังเรือนจำนั้น สงครามเริ่มเกิดพอดี ซึ่งมีสายของร้อยเอกเอดัวร์โด ฮินกิส รายงานมาว่าามีการเคลื่อนย้ายนักโทษของเวสปาโนล่าทั้ งหมดออกจากประเทศและไปที่ทวีปใหม่ ซึ่งตอนนั้นเอดัวร์โดเข้าใจว่าทางเวสปาโนล่าต้องการใ ช้นักโทษเป็นกองกำลังทหารในการแอบโจมตีดักหลังบริสเท ีย เลยได้มอบหมายตำแหน่งแม่ทัพให้กับกราเชีย ฮินกิส และบอกล่าคู่หมั้นของตนเอง เชลวา นอร์ท เพื่อเดินทางไปยังเรือนจำจาควิน
เนื่องจากผู้คุมของเรือนจำจาควินมีไม่กี่คน จึงได้มีผู้ที่หลบหนีสงครามได้แฝงตัวเข้ามากับนักโทษ เพื่อหลบหนีสงครามมาด้วย
เอดัวร์โดลอบเข้าไปในเรือนจำโดยแฝงตัวเข้าไปกับนักโท ษ เป็นจังหวะที่ประตูเรือนจำปิดตายพอดี
นับตั้งแต่นั้น ทั้งฮินกิสและเซลวา นอร์ทก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไรจากเอดัวร์โดอีก
มอนโดโรเริ่มใช้ให้ ดร.ฟราน ทำการทดลองโดยเริ่มปล่อยมนต์ใส่นักโทษที่อยู่ในเรือน จำทั้งหมด หากสังเกคดีๆ ตามชั้นต่างๆจะมีพัดลมระบายอากาศอยู่เต็มไปหมด ซึ่งมอนโดโรใช้จุดนี้ในการระบายมนต์ทางอากาศไปสู่นัก โทษ
เหล่านักโทษที่ต้องมนต์ต้องการแย่งฆ่าฟันกันเอง ถึงจะมีนักโทษหลายคนที่ไม่ได้โดนมนต์ก็ตามแต่ก็ต้องจ ำใจฆ่าสหายตนเองเพื่อความอยู่รอด
ระหว่างนั้นเอดัวร์โดใช้จังหวะนี้ในการลอบเข้าในเรือ นจำ ลึกเข้าไปเรื่อยๆ
กลุ่มนักโทษกลุ่มสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ได้มาถึงสะ พานทางเข้าออกของเรือนจำจาควิน พวกเขาเริ่มต่อสู้กับอดีตพวกพ้องตนเองเพื่อความอยู่ร อด นักโทษคนหนึ่งเขียนคำสลักข้อความทิ้งไว้ที่ใจกลางของ สะพานนั้น
และในที่สุด ก็ไม่มีนักโทษในเรือนจำจาควินคนไหนรอดชีวิต
และสถานที่แห่งนั้นก็เป็นที่มาของชื่อ "สะพานแห่งความสิ้นหวัง"

การทดลองของ ดร.ฟรานนั้นผมไม่มั่นใจว่าทำกันยังไง แต่เป็นการกระซากวิญญาณออกมาจากร่างเพื่อนำมาเป็นพลั งงานให้กับอาวุธ ปืนใหญ่เวทมนต์
ตอนที่ปืนใหญ่เวทมนต์กำลังจะสร้างเสร็จพอดี เอดัวร์โดโผล่ออกมาขัดขวางได้สำเร็จ แต่ทว่า มอนโดโรกลับออกมาและใช้เล่ห์กลสกปรกร่ายมนต์ใส่เอดัว ร์โดเพื่อหวังจับเอาเอดัวร์โดมาเป็นซอมบี้ด้วย แต่ทว่าจากการที่มอนโดโรกับเอดัวร์โดสู้กันมาก่อนทำใ ห้มันเสียพลังเวทไม่น้อย อีกครั้งตอนนั้นเวสปาโนล่ากำลังเสียเปรียบในสงคราม จึงต้องนำปืนใหญ่เวทมนต์ไปให้ทางกองทัพ
"หน้าตามันก็ดูไม่ได้อยู่แล้ว ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสร้างซอมบี้ผอมกระหร่องแบบนั้นมาทำไ ม"

และในที่สุด พลังงานของวิญญาณมนุษย์ใน ปืนใหญ่เวทมนต์ ก็ทำให้ฝ่ายเวสปาโนล่ามีชัยในสงครามและได้อ้างสิทธิใ นการครอบครองทวีปใหม่อย่างสมบูรณ์
หลังจากที่เชอร์ ลินคอน ไปสำรวจสภาพของเรือนจำจาควิน ซึ่งก็มีแต่ร่างไร้วิญญาณของเหล่านักโทษในเรือนจำที่ ไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากเนื้อมนุษย์เป็นๆ
เชอร์ ลินคอน พบ เอดัวร์โดในสภาพปางตาย และช่วยชีวิตไว้เพราะหวังใช้เป็นเครื่องมือของตนเอง

................

ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า เรือนจำจาควิน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริสเทียแพ้ในสงคราม และให้เวสปาโนล่ามีชัย

End 

############################################################################
กำเนิดทวีปใหม่

- 1461
* จิลแบร์โต้ กรานาโด้ ลูกชายคนโตของบ้านกรานาโด้เกิด

- 1464
* เฟรูโช เอสปาด้าเกิด โดยเขาเป็นลูกชายคนโตของบ้านเอสปาด้า ซึ่งเป็นตระกูลทหารที่มีชื่อเสียงในแถบ Canonar ทางตอนใต้ของประเทศ Oporto ซึ่งนามสกุล Espada นี้เป็นนามสกุลพระราชทานจากกษัตริย์เดนิสที่ 10 แห่งโอปอร์โต้เมื่อนานมาแล้ว เนื่องจากตระกูลนี้ทำหน้าที่ป้องกันประเทศทางตอนใต้ เปรียบเสมือน "ดาบ" (Espada ในภาษาสเปนและโปรตุเกสแปลว่าดาบ) ที่คอยพิทักษ์ดินแดนทางตอนใต้ของประเทศ ถึงแม้ความยิ่งใหญ่ของตระกูลจะไม่เท่าสมัยก่อน แต่เนื่องจากแม่ของเฟรูโชนั้นมีเชื้อพระวงศ์ ทำให้เขาได้รับการศึกษาเป็นอย่างดี โดยเม่ของเขานั้นเสียชีวิตด้วยโรคระบาดในขณะตั้งครรภ ์ลูกคนที่สองอยู่ เมื่อเฟรูโชมีอายุเพียง 10 ปี

- 1480
* เฟรูโช และ จิลแบร์โต้ เข้าศึกษาในโรงเรียนยุทธนาวี และมีชื่อเสียงโด่งดังจากภารกิจปราบปรามเหล่าโจรสลัด ในน่านน้ำ

- 1483
* เส้นทางติดต่อค้าขายไปยังฝั่งตะวันออกถูกปิดกั้นจากท าร์กา ราชินีตริเอสเต้แห่งโอปอร์โต้จึงดำริให้มีนโยบายสำรว จเส้นทางค้าขายใหม่

- 1485
* เฟรูโช และ จิลแบร์โต้มีซึ่งปัจจุบันรับราชการในกองทัพเรือแล้วไ ด้ปราบโจรสลัดหญิงที่โหด*มในน่านน้ำได้สำเร็จ จึงมีชื่อเสียงโด่งดัง

- 1487
* ราชินีตริเอสเต้มอบหมายให้เฟรูโชและจิลแบร์โต้เป็นหั วหน้าคณะ และค้นพบทวีปใหม่ขึ้น ราชินีตริเอสเต้แห่งโอปอร์โต้จึงพระราชทานนามทวีปใหม ่ตามนามสกุลของหัวหน้าคณะสำรวจทั้งสองว่า "Granado Espada"

- 1488
* คณะสำรวจชุดที่ 2 ได้มาถึง และสร้างปอร์โต้ เบลโลขึ้นเพื่อเป็นท่าขนถ่ายสินค้าและผู้คน

- 1489
* เวสปาโนล่าและทาร์กาจับมือเป็นพันธมิตร

- 1490
* สร้างเมืองโคอิมบร้า โดยเฟรูโช เอสปาดาเป็นเจ้าเมือง

-1492
* กษัตริย์เฟลิเป้ที่ 2 แห่งเวสปาโนล่าสวรรคต จึงได้อัญเชิญเจ้าชายซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องขึ้ นครองราชย์ มีพระนามว่า กษัตริย์ซันโจที่ 4
* ส่วนโอรสในกษัตริย์เฟลิเป้ที่ 2 ก็ได้มีพระยศตามพระนามกษัตริย์องค์เดิมว่าแกรนด์ดยุก เฟลิเป้ (แกรนด์ดยุก มีศักดิ์รองจากกษัตริย์หรือ King 1 ขั้น)
/ลูกไม่ได้ขึ้น น้องได้ขึ้นครองราชย์แทน จะยุ่งก็ตรงนี้แหละ/

-1494
* รวมประเทศโอปอร์โต้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของเวสปาโนล่า เนื่องจากเป็นหนี้มหาศาล

- 1495
* สร้างท่าเรือโคอิมบราแห่งที่ 1 เพื่อใช้ในการขนถ่ายสินค้าและผู้คนแทนปอร์โต้ เบลโล

- 1497
* เจ้าหญิงเอสเปรันซ่า (แปลว่าความหวัง) ทรงประสูติ โดยเจ้าหญิงเอสเปรันซ่ามีเชื้อสายของทั้งเวสปาโนล่า (กษัตริย์ซันโจที่ 4) และโอปอร์โต้ (ไม่ทราบมารดา)
* สร้างเมืองรีบอร์โดซ์

- 1498
* สร้างสามแยกเฟรูโช เพื่อเป็นเส้นทางเชื่อมจากรีบอร์โดซ์ไปยังโคอิมบรา

- 1499
* เฟรูโชพบกับโนเวีย
ตระกูลของโนเวียนั้นเป็นคณบดีใหญ่ที่ให้เงินสนับสนุน การสำรวจทวีปใหม่ เมื่อโนเวียพบเฟรูโชหนุ่มใหญ่วัย 35 หนวดงามก็เกิดรักแรกพบปิ๊งๆ ส่วนเฟรูโชนั้นก็หวังจะหลอกใช้สาวน้อยโนเวียเพื่อเป็ นแหล่งเงินทุนในการสำรวจ หลังจากเฟรูโชไปทวีปใหม่แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย เวลาผ่านไปสิบกว่าปี จากความรักเปลี่ยนเป็นความแค้น ในที่สุด เมื่อแกรนด์ดยุกเฟลิเป้ขอเธอแต่งงานเธอก็ไม่ปฏิเสธ และได้กลายเป็น 1 ใน 10 ขุนนางในเวลาต่อมาเพื่อรอเวลาชำระแค้นกับเฟรูโช

- 1501
* ก่อตั้ง NOCC หรือคณะกรรมการควบคุมทวีปใหม่ (The New COntinent Order Control Commission) เพื่อควบคุมทวีปใหม่โดยสมาชิกมาจากพวกราชวงศ์และชนชั ้นสูง

- 1503
* นักสำรวจหนุ่ม ลอเรนโซ จิอานนิโน ค้นพบแห่งอารยธรรมโบราณเตตรา แต่ข่าวก็รั่วไหล เหล่าคนที่สนใจในสมบัติต่างก็แห่มาขุดสำรวจเป็นการให ญ่ ในที่สุดสุสานใต้ดินเตตราก็ถล่มลงมาทับฝังผู้คนมากมา ย คนที่ไม่ถูกฝังก็ถูกโจมตีจากปีศาจที่อยู่ภายใน จึงเรียกเหตุการณ์นี้ว่าวิกฤตการณ์ 4.3 และได้เกิดหน่วยเรสคิวไนท์เพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ ที่รอดชีวิตจากเตตรา

- 1505
* เหล่าผู้คนที่ไม่พอใจในนโยบายภาษีของเมืองโคอิมบราแล ะรีบอร์โดซ์ที่ถูกควบคุมโดย NOCC ได้อพยพไปสร้างเมืองใหม่ทางตอนเหนือ คือเมืองออช (อุช) โดยผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีคนแรกของเมือง ได้แก่ เลโอนาร์โด้ ริโอ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของเฟรูโช เอสปาด้า กับ จิลแบร์โต้ กรานาโด้ ซึ่งผู้ชนะก็คือเลโอนาร์โด้นั่นเอง
(ประวัติตรงนี้จะไม่ตรงกับในเกมนะครับ ในเกมนั่นเมืองอุชก่อตั้งในปี 1538 โดยนายกเทศมนตรีคนแรกคือเอกซเทนโซ ริโอ เกาหลีก็มั่วเป็นเหมือนกันนะ)

- 1510
* กษัตริย์ซันโจที่ 4 เสด็จสวรรคต เจ้าหญิงเอสเปรันซ่าในวัย 13 พรรษาขึ้นครองราชย์แทน ทรงพระนามว่า "ราชินีเอสเปรันซ่า"
* ราชินีเอสเปรันซ่าได้ดำริให้สร้างท่าเรือโคอิมบร้าแห ่งที่สองขึ้นแทนที่ของเดิมทันที (ของเดิมก็กลายเป็นท่าเรือเก่าโคอิมบร้า)
* * ส่วนแกรนด์ดยุกเฟลิเป้ซึ่งควรจะได้ครองราชย์ก็ตกกระป ๋องและได้แต่เก็บความแค้นไว้ในใจ และได้ซ่องสุมกองกำลังส่วนตัวขึ้น นำโดยจอมเวทย์ผู้เลื่องชื่อจากทวีปเก่า "อัลฟองโซ เอร์นันเดซ" ซึ่งก็คือหัวหน้า 10 ขุนนางนั่นเอง โดย 10 ขุนนางนี้มีบทยาทอย่างมากใน NOCC

- 1512
* NOCC มอบหมายให้เฟรูโช เอสปาดาสำรวจยังตินแทนทุ่งน้ำแข็งยังตอนเหนือ และได้สร้างกำแพงเฟรูโชขึ้นเพื่อป้องกันความหนาวเหน็ บที่จะแผ่ลงมา
* กรูทรูดด์ ปีเตอร์สัน นักสืบน้อยชาวอิลเลียร์ชื่อดังวัย 14 ปี ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจากการคลี่คลายคดีฆาตกรรมปริศ นา เดินทางมายังทวีปใหม่
* ในขณะที่ก่อสร้างกำแพงเฟรูโชอยู่นั้น ฝูงมอนสเตอร์จำนวนมากก็ได้บุกถล่มโคอิมบรา NOCC จึงได้เรียกตัวเฟรูโชกลับมา รวมถึงเรียกตัวจิลแบร์โต้ กรานาโด้มาช่วยกันป้องกันเมืองด้วย
* เมื่อทั้งคู่มาถึง แนวหน้าได้แตกแล้ว เฟรูโชกำลังพลออกไป แต่ตัวเองคอยอยู่บัญชาการในเมือง คอยช่วยเหลือเด็กและสตรีผู้อ่อนแอไร้ทางสู้ในเมือง จิลแบร์โต้จึงได้ออกรบแนวหน้าแทน ในความรู้สึกนั้นจิลแบร์โต้รู้สึกราวกับว่าโดนทวีปเก ่าทรยศเพราะในยามมีภัยก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออะไร และรู้สึกอิจฉาเฟรูโชที่มักจะได้เป็นผู้นำทั้งๆ ที่ก็ได้ช่วยกันสร้างโคอิมบราขึ้นมาไม่ยิ่งหย่อนไปกว ่ากัน เลย ในที่สุดฝูงมอนสเตอร์ก็ถูกกำจัดจนสิ้น เลือดนองท่วมโคอิมบร้า และจิลแบร์โต้ก็ได้รับบาดเจ็บจนเกินเยียวยาเสียแล้ว จิลแบร์โต้อยู่ในอ้อมแขนของเฟรูโช นึย้อนรำลึกถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ตั้งแต่วัยเยาว ์ เฟรูโชเป็นเพื่อนในยามยากของเขาเสมอมา และรับฟังปัญหาของเขาทุกเรื่อง นึกถึงวีรกรรมที่เคยบุกเบิกทวีปใหม่ขึ้นมาด้วยกัน แต่ลิขิตฟ้าก็ทำให้ต้องเลือกเพียงหนึ่ง เขาได้แต่น้อยใจและกล่าวประโยคสุดท้ายออกมา "ที่ข้าทำลงไปมันไม่มีความหมายเลยใช่มั้ย" แล้วก็สิ้นใจลงในอ้อมแขนของเฟรูโชที่น้ำตาท่วม จิลแบร์โต้ กรานาโด้ เสียชีวิตในวัย 51 ปี

- 1513
* แกรนมาพบรัก (ชื่อเดิมของแกรนด์มาคือ แกรนดิส ซึ่งเซิฟเวอร์ SEA ก็ได้ใช้ชื่อเดิมคือ Grandice ไม่ได้ใช้แกรนมา) เธอเป็นชาวเวสปาโนล่าที่ย้ายมาอยู่อุชตามพ่อแม่เนื่อ งจากทนภาษีหฤโหดในโคอมบราและรีบอร์โดซ์ไม่ไหว และได้มีชื่อเสียงจากการสำรวจดินแดนรอบๆ อุชจนเป็นที่พึงใจต่อราชินี และได้เรียกตัวเข้าเฝ้า โชคชะตาจึงทำให้แกรนดิสผู้มีผิวหยาบกระด้างและเต็มไป ด้วยมัดกล้ามได้พบรักกับชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ผู้บอบบ าง แต่เธอก็ไม่พิศมัยในชีวิตที่หรูหราของรีบอร์โดซ์ จึงได้ย้อนกลับมาทำการสำรวจดินแดนใหม่ต่อจนได้รับสมญ าว่า "ราชาแห่งการสำรวจ"
* แผนการร้ายของมอนโตโรซึ่งเป็นญาติสนิทของเฟลิเป้ เริ่มรู้สึกว่าเฟรูโช เอสปาด้าเริ่มเอาใจออกห่างเนื่องจากการตายของจิลแบร์ โต้ บวกกับความทะเยอทะยานของตัวเองจึงได้คิดแผนการยึดครอ งทวีปใหม่โดยร่วมมือกับ 10 ขุนนางคนอื่นๆ ได้แก่ เอร์นันเดซ โนเวีย คอร์เทส

- 1514
* นักวิทยาศาตร์หนุ่มอัจฉริยะชาวอิลเลียร์ ดร.เฟอร์นันโด ทอร์เช่ ถูกเอร์นันเดซชักชวนให้มาทำงานกับแกรนดยุกเฟลิเป้ และได้กลายเป็น 1 ใน 10 ขุนนางในเวลาต่อมา

- 1515
* NOCC สร้างเรือนจำจาแกง (จาควิน) เพื่อคุมขังนักโทษ

- 1517
* ตลาดอุตสาหกรรมเมืองออชสร้างเสร็จสิ้น พร้อมกับท่าเรือโคอิมบร้าแห่งที่สอง แต่ตลาดเมืองออชที่สร้างโดยเลโอนาร์โด ริโอ คนสนิทของเฟรูโชก็ถูกลอบวางเพลิง 10 ขุนนางส่งคนมาลอบสังหารเลโอนาร์โด้ แต่ภรรยาและลูกชายของเลโอนาร์โด้ที่ใครๆ คิดว่าตายแล้วกลับรอดชีวิตและแอบหนีกลับไปบริสเทีย และค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คน
* โซโฮซึ่งเป็นพลเมืองรุ่นที่ 2 ของทวีปใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น ครอบครัวของเขาถูกแบ่งแยกชนชั้นเนื่องจากพ่อแม่ไม่ใช ่ชาวเวสปาโนล่า ในวัยเด็กเขาได้พบกับฟริตซ์ซึ่งได้ถ่ายทอดศิลปะป้องก ันตัวและปรัชญาให้กับโซโฮ โดยภารกิจของฟริตซ์คือค้นหาเด็กผู้มีพรสวรรค์และถ่าย ทอดวิชาให้เพื่อการณ์ใหญ่ในภายภาคหน้า (ฟริตช์เป็น 1 ใน 10 ขุนนางที่ค่อนข้างแหกคอก)
* ลอเรนโซ จิอานนิโน ค้นพบอารยธรรมโบราณแห่งที่ 3 "เอรัก" โดยมี "นาร์" เด็กชาวพื้นเมืองเป็นผู้ช่วยในการสำรวจ จนในที่สุดก็ได้พบอัญมณีสีแดง เรื่องราวการทรยศหักหลังระหว่างลอเรนโซ นาร์ และชาวเอรักไปติดตามได้ใน 3.0 เน้อ (เควสแสตนซ์กลุ่มดาว ซึ่งเป็นสแตนซ์เอ็กซ์เพิร์ตใน 3.0 ต้องใช้ลูกสาวของลอเรนโซมาคุยกับราชินีฮามานแห่งเอรั กด้วยนะ)
* นาร์พบกับอาเนีย เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันซึ่งเขาช่วยชีวิตเธอจากกอ งเพลิง "เป็นความผิดของข้าเอง..."

- 1518
* ผู้สำเร็จราชการทวีปใหม่ เฟรูโช เอสปาดา เสียชีวิตด้วยวัย 54 ปี จากการสำรวจที่ทุ่งน้ำแข็งคาโทวิค ผู้คนลือกันว่าเขาถูก NOCC วางยา ภายหลังการตายของเขา ปอร์โต เบลโลก็เกิดความปั่นป่วน ฝูงปิศาจและโจรสลัดก็ได้มาชุมนุมกันกันที่นี่ ทำให้เต็มไปด้วยซากเรือที่อับปาง แต่ก็มีข่าวลือว่าเขายังไม่ตายเพราะมีผู้พบเห็นเขาปร ากฏกายที่แนวหน้า

- 1519
* ผลจากการรวมประเทศ และทรัพยากรจากทวีปใหม่ ทำให้เวสปาโนล่าเปล่งบารมีข่มบริสเทีย ในที่สุดก็เกิด "สงคราม 3 ปี"
* สงครามขยายตัว และเวสปาโนล่าก็ได้ประกาศรวมพลผู้รักชาติ และเรียกตัวผู้มีฝีมือกลับจากทวีปใหม่ด้วย ซึ่งแกรนดิสในวัย 30 ก็ไม่ได้มีข้อยกเว้น โดยราชินีเอสเปรันซ่าได้มอบหมายให้เธอเป็นผู้นำหน่วย เรสคิวไนท์ และทำงานร่วมกับ 10 ขุนนาง แม้จะได้รับชัยชนะ แต่เธอก็ไม่พอใจกับวิธีการที่ไร้มนุษยธรรมของสิบขุนน าง ในที่สุดเธอก็ได้คลอดลูกอย่างลับๆ
* การดึงเอาทรัพยากรจากทวีปใหม่เพื่อมาใช้ในสงครามเริ่ มเข้มข้น ก่อให้เกิดการต่อต้านอย่างมาก ในที่สุด NOCC ก็ล่มสลาย
* ร้อยตรีเอดูอาร์โด ฮิงกิส แห่งหน่วยข่าวกรอง BSA ของบริสเทีย แฝงเข้ามาสอดแนมในเวสปาโนล่า แต่ถูกฮิวโก้ ลินดอน คนสนิทของแกรนด์ดยุกเฟลิเป้จับได้ เหตุการณ์ถัดจากนี้ไปคุณเวย์นเล่าไปแล้วเน้อ

- 1520
* การทดลองในจาควิน หลังจาก NOCC ล่มสลาย การปกครองจาควินเลยเข้าสู่สภาวะสุญญากาศ และมอนโตโรซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 ขุนนางจึงได้ใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อทำการทดลองอะไรบา งอย่าง
* เวสปาโนล่าเจรจาขอความช่วยเหลือในด้านการสงครามจากอิ ลเลียร์ได้สำเร็จด้วยฝีมือของเอร์นันเดซซึ่งเคลื่อนไ หวอยู่ใต้ดิน ทำให้ชื่อเสียงของเฟลิเป้ขจรขจายยิ่งกว่าเดิม
* แคทเทอรีน ทอร์เช่ เสียชีวิต ดอกเตอร์เฟอร์นันโดผู้สิ้นหวังทุ่มเทกำลังให้กับการว ิจัยโอไทต์

- 1521
* สงครามน่านน้ำบาเลียเรส เวสปาโนล่าได้รับชัยชนะเด็ดขาด
* เคิร์ท ลินดอน หลบหนีมายังทวีปใหม่

- 1522
* การ์เซีย ฮิงกิส, เกรซ แบร์เนลลี, เอ็มโบม่า เดินทางมายังทวีปใหม่

ประวัติโซโซ

โซโฮเกิดปี 1517 ครับ นับถึงตอนนี้ก็ประมาณ 14 ขวบเอง แต่แกโตเร็วมาก
ส่วนลูกสาวคนเดียวของแกรนมาเกิดในปี 1519 ตอนนี้ก็ประมาณ 12-13 ขวบละ ปลายปีนี้จะได้เล่นรึเปล่ายังไม่รู้เลย
ส่วนสงครามน่าน้ำบาเลียเรสที่เป็นจุดแตกหักเกิดขึ้นใ นปี 1521 และในปีนี้เคิร์ทลินดอนก็ได้หลบหนีมายังทวีปใหม่
และการ์เซีย ฮิงกิส และเกรซ ก็ได้มายังทวีปใหม่ในปี 1522

############################################################################

ประวัติของเอดัวร์โดและฮินกิส

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
ขอเล่าก่อนว่าทั้งคู่มาจากบริสเทีย ประเทศที่เคยมาอ้างสิทธิในการครองครองดินแดนใหม่และท ำสงครามกับเวสปาโนลา
กราเชียมียศเป็นสิบตรี และเอดัวร์โดมียศเป็นร้อยเอก
ต่อมาเอดัวร์โดได้สังเกตถึงความผิดปกติของเรือนจำจาค วิน เลยตามมาสืบ ซึ่งตอนนั้นกราเชียไม่รู้เรื่องเลยว่า พี่ชายของตนจะไปเผชิญหน้ากับมอนโดโร
มอนโดโรคือหนึ่งในสิบขุนนางที่มีรสนิยมแปลกๆ คือชอบแต่งตัวเป็น ญ (พูดง่ายๆ มันเป็นเกย์)
มอนโดโรได้บังคับให้ ดร.ฟราน สร้างอาวุธมนุษย์ นั่นคือปืนใหญ่เวทมนต์ ตอนนั้น ดร.ท็อช อยู่ด้วยนะและรู้ความจริงว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาได้เป ็นอาวุธ เขาเลยหนีออกมา
ส่วน ดร.ฟราน ซึ่งโดนบังคับให้ทำ ไม่ทำก็คือตาย
ส่วนประกอบในการทดลองอาวุธมนุษย์ก็คือ การนำพลังงานของสิ่งมีชีวิต หรือ วิญญาณของมนุษย์มาเป็นพลังงาน
เริ่มมีการวิจัยทำให้นักโทษในเรือนจำเป็นบ้าและเริ่ม ฆ่าฟันกันเอง จนทำให้จิตใจมีความแต่ความชั่วร้าย
ยิ่งนักโทษฆ่ากันเองมากเท่าไหร่ ความโหด*มและอำมหิตก็มีมากขึ้นเท่านั้น
ตอนนั้นเอดัวร์โดลอบเข้าไปในเรือนจำก่อนที่เรือนจำจา ควินจะถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้นักโทษหนีออกมาได้
เอดัวร์โดสามารถขัดขวางมอนโดโรจนเกือบสำเร็จ แต่มอนโดโรใช้ความเจ้าเล่ห์ ร่ายมนต์ใส่เอดัวร์โดจนพลาดท่า เอดัวร์โดโดนมนต์ของมอนโดโรจนสูญเสียความทรงจำไป
หลังจากนั้นคือเหตุการณ์ที่เวสปาโนลาใช้อาวุธสุดท้าย คือ ปืนใหญ่เวทมนต์ ยิงโจมตีฝ่าบริสเทียจนฝ่ายบริสเทียต้องยอมจำนน และช่วงนั้นเอง ดร.ท็อชได้หลบหนีมาที่กรานาโด เอสปาดาสำเร็จและเริ่มทำการวิจัยเพื่อชุบชีวิตลูกสาว เขา แคทเทอรีน
หลังจากที่บริสเทียยอมจำนน เวสปาโนลาได้อ้างสิทธิในการครองครองทวีปใหม่อย่างสมบ ูรณ์
ขณะนั้นที่เรือนจำจาควิน เชอ ลินคอน ได้ไปตรวจสอบที่เรือนจำและพบเอดัวร์โดยังมีชีวิตอยู่ นอนอยู่ท่ามกลางซากศพในสภาพปางตาย
เชอ ลินคอน ได้ช่วยชีวิตเอดัวร์โดและใช้เป็นเครื่องมือของเวสปาโ นลาในการกวาดล้างบริสเทียที่คิดทรยศ แน่นอนว่าเอดัวร์โดทำไปโดยไม่รู้เรื่อง
ขณะนั้นเองที่สงครามได้ยุติ เคิร์ก ลินคอน บุตรบุญธรรมของเชอ ลินคอน ได้รู้ความจริงเรื่องที่เวสปาโนลาที่จะมาครอบครองทวี ปใหม่เพื่อผลประโยชน์ตนเอง จนทำให้เชอ ลินคอน ต้องการฆ่าเคิร์ก
ตอนนั้นคือเกมช่วง Open Beta พอดี คือเราในฐานะนักสำรวจที่มาจากทุกสารทิศได้มาเยือน กรานาโด เอสปาดาครั้งแรก
การที่เชอ ลินคอนคิดที่จะฆ่าเคิร์ก เขาเลยสั่งให้เอดัวร์โดลอบตามเคิร์กไป โดยทั้งคู่ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ ลอส โทดอท ดินแดนฆาตรกร
ฝ่ายฆาตรกรนั้นโดยส่วนมากเป็นอดีตทหารและนักรบของบริ สเทียที่พลาดท่าตอนสงคราม พวกเขาได้มารวมตัวกันเพื่อกำจัดฝ่ายเวสปาโนลาโดยมีเค ิร์กเป็นผู้นำเคิร์กหวังที่จะให้เหล่าฆาตรกรเป็นกำลั งในการโค่นล้มเวเนสโปล่า
ในลอส โทคอท นั้นความจริงอยู่ใกล้กับเมืองที่มอนโดโรได้ใช้ทดลองพ ลังงานของอาวุธปืนใหญ่เวทมนต์แบบเดียวกับในเรือนจำจา ควิน จนทำให้เมืองนั้นล่มสลายและกลายเป็นดินแดนแห่งความตา ย
เคิร์กมีความเชื่อมั่นว่ามอนโดโรต้องอยู่แถวนั้น เลยใช้ให้เอดัวร์โดไปสืบหาร่องรอยของมอนโดโร ขณะนั้นเอง เอดัวร์โดเริ่มเบื่อหน่ายเรื่องทั้งหมดและต้องการตาม หาความทรงจำของตนเอง
ระหว่างนั้น กราเชีย ฮินกิส ได้ลอบเข้ามาในกรานาโด เอสปาดาโดยมีไซม่อน อเยน เพื่อนเก่าคอยให้ความช่วยเหลือ ฮินกิสเลยช่วยเหลือไซม่อนเรื่องการสืบหาร่องรอยให้กั บฝ่ายสภาและตามล่ามอนโดโรไปในตัว ซึ่งส่วนมากเขาจะไปสืบอยู่ในเรือนจำเสียมากกว่า จนทำให้ทั้งเราและเกรชได้ไปพบกับฮินกิสที่นั่น
เรื่องราวต่อจากนี้จะแยกกัน 2 มุมมอง นั่นคือ ช่วงของเอดัวร์โดและฮินกิส ขอเริ่มจากเอดัวร์โดก่อน
ตอนที่เราทำเควสเอากระเป๋าโอไทต์ไปวางเพื่อล่อให้ เชอ ลินคอน อกมา เป็นตอนที่เคิร์กต้องการที่จะฆ่าเชอลินคอนตรงนั้นเลย
ตอนนั้นเอดัวร์โดปรากฎตัวออกมาโจมตีเคิร์กและโจมตีเช อ ลินคอนด้วย เพราะเขาเบื่อหน่ายเรื่องทั้งหมด เรื่องที่เคิร์กไม่ยอมละทิ้งดินแดนฆาตรกรไป และเรื่องที่เชอ ลินคอน ชอบใช้เขาในทางชั่วๆ


หากในเนื้อเรื่องเราเลือกเอดัวร์โด เราเลยต้องไปจัดการเคิร์กจนเขาไม่สามารถทำอะไรได้ และเอดัวร์โดเลยร่วมเดินทางไปกับเรา
อีกเนื้อเรืองหนึ่งก็คือตอนที่เราอยู่ที่บาฮามาและเด ินทางกลับมาเมืองอุชเพื่อมาปราบปรามเรือนจำจาควิน และได้พบกับกราเชีย ฮินกิส อีกครั้ง
ไซม่อน อเยน ไม่เชื่อว่าฮินกิสจะทำให้เรือนจำจาควินเต็มไปด้วยวิญ ญาณร้าย (ต้นตอมาจากมอนโดโรทั้งนั้น) เขาเลยขอร้องให้เราตามกราเชียไป
เราตามเราเชีย ฮินกิส ไปที่รั้วฟารุชชิโอ และได้พบกับเซลวานอส คู่หมั่นของเอดัวร์โด


เซลวา นอท ความจริงก็คืออาจารย์ของฮินกิสด้วย แน่นอว่าฮินกิสเองก็แอบชอบเชลวา นอท เงียบๆ

เซลวา นอท ได้มุ่งหน้าไปหาอินเวียโน ชายผู้ร่วมเดินทางมาสำรวจทวีปใหม่พร้อมกับท่านเฟอร์ร ุชชิโอ โดยมาขอพลังในการปลดผนึกสมบัติของเฟอร์รุชชิโอ
จุดประสงค์ของเซลวา นอท ก็คือการแก้แค้นให้เอดัวร์โดและกำจัดมอนโดโร เพราะเธอเชื่อว่าเอดัวร์โดตายแล้ว
ส่วนฮินกิสต้องการพลังเพื่อโค่นล้มเวสปาโนลาและแก้แค ้นให้พี่ชายเขา

ระหว่างนั้นเองมอนโดโรโผล่ออกมาจัดการอินเวียโนเพื่อ แย่งที่ปลดผนึกโนเวียไป ทำให้ทั้งคู่รู้ว่าพลังนี้มันเอาไปใช้ในทางที่ดีไม่ได้

ทั้งเรา , เซลวา และฮินกิส ไล่ตามมอนโดโรและไปขัดขวางการปลดผนึกของโนเวียสำเร็จ แต่จังหวะที่มอนโดโรใช้แผนสกปรกที่เคยใช้กับเอดัวร์โ ด โจมตีใส่เซลวา นอท ฮินกิสได้ใช้ตนเองเป็นโล่เข้ามาขวางจนตนเองโดนมนต์ขอ งมอนโดโร

ส่วนเซลวา นอท ไม่ได้สนใจอาการของฮินกิสแม้แต่น้อย และไล่ตามมอนโดโรไปที่เซเตเดรม
ตอนนั้นเราแบกหามฮินกิสกลับมาที่ที่พักของอินเวียโนแ ละช่วยชีวิตฮินกิสไว้
เมื่อเราพาตัวฮินกิสไปพบไซม่อน ไซม่อนแนะนำให้ฮินกิสเข้าร่วมทีมกับเราเพื่อหลีกเลี่ยงการตามล่าของเวสปาโนลา

############################################################################
บทที่ 6 เซเตดราม



- เอดัวร์โดจะออกจากลอส โทดอส ในเวลานี้ เพื่อตามหาสมบัติของเฟอร์รุชชิโอ และค้นหาความทรงจำตัวเอง
- วินเซนต์ค้นพบความจริงของอดีตพ่อตัวเอง
- คลูดรับแคลร์ เป็นบุตรบุญธรรม
- และตอนนี้ก็คือตาพวกเราที่เป็นนักสำรวจของทวีปใหม่ดำ เนินเนื้อเรื่องตัวเองบ้าง
- เหล่าคนเล่นรวบรวมกำลังพลโจมตีโกเลมเพื่อเปิดทางสู่ทวีปใหม่
- ตัวเราค้นพบเศษหินแปลกประหลาดที่จอมเวทย์คณะเดินทางข องเราตรวจพบเจอเวทมนต์แปลกๆ เราเลยคิดว่า เลโอโนรา ย่าของเซียร่าน่าจะรู้ จึงนำไปให้เธอตรวจสอบ
- เลโอโนราเล่าให้ฟังถึงเซเตดราม อดีตดินแดนที่พวกยักษ์เคยอาศัยอยู่ แต่จู่ๆเกิดเหตุระเบิดใต้ดิน ทำให้สถานที่นั้นกลายเป็นซากรกร้างปรักหักพัง ที่เต็มไปด้วยซากศพของเหล่ายักษ์ที่กลายเป็นหินด้วยเ วทมนต์และมอนเตอร์ที่มีโดนผลของเวทมนต์เข้าไปทำให้แข ็งแกร่งและโหด*มขึ้น เธอต้องการให้ขุนนางเอคอร์นี่ ที่มีกำลังทหารช่วยไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เพราะเหตุใดหินที่เราเอามานั้นกลับมีพลังงานแปลกประห ลาดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่เรื่องนี้เธอไม่ได้บอกเรา เธอแค่ถ่ายทอดความคิดลงในจดหมายและฝากให้เราไปให้ขุน นางเอคอร์นี่ พร้อมกำชับว่า อย่าไปอีกเด็ดขาด
- ตัวเรานำจดหมายไปให้ขุนนางเอคอร์นี่ที่ค่ายทหารบาฮาม า โดยขุนนางเอคอร์นี่ได้ขอร้องให้เราไปช่วยสำรวจที่นั่ นด้วย ซึ่งแน่นอนว่าต้องปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับกับ เลโอโนรา ซึ่งเราก็ตอบตกลง ทีนี้ในคณะเดินทางของเรา มีคนหนึ่งเอะใจเรื่องดินแดนนี้ที่มอนโตโรบอกก่อนที่จ ะหลบหนีตอนที่อยู่หอคอยภูติหิมะ
- ขุนนางเอคอร์นี่ให้เราไปหาหินแบบเดียวกันกับที่เราเอ ามา 3 แบบเพื่อมาตรวจสอบเรื่องนี้ โดยให้เราไปส่งจดหมายให้ เลโอโนรา ก่อน
- ลูกบุญธรรมของคลูด น้องแคลร์ ปรากฎตัว
- แคลิช นักฆ่าสาวหน้าไม้ ปรากฏตัวที่สมาคมทหารรับจ้าง
- ระหว่างทางที่เราไปเก็บหินนั้น เราเจอผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเราจำได้แม่นว่าคือ เซลวา
- เมื่อเราไปพบกับขุนนางเอคอร์นี่อีกครั้ง เขาเล่าเรื่องของเซลวาให้เราฟังเพิ่มเติม ซึ่งเราตัดสินใจในนาทีนั้นได้ในทันทีว่าคือ เซลวา นอร์ก แน่นอน และหลังจากนี้คือ เรากับขุนนางเอคอร์นี่เดินทางไปเซเตดราม โดยขุนนางเอคอร์นี่ล่วงหน้าไปก่อน
- ระหว่างทางที่เราไป (หลบหลีกมอนเตอร์กระหายเลือด) ขุนนางเอคอร์นี่นำกำลังทหารเรศคิวไนท์ บุกเข้าไปในซากเทวรูปโบราณ และพบกับชารอน จนต้องเกิดการต่อสู้กัน ระหว่างนั้น เอดัวร์โดโผล่มาช่วย
- หลังจากที่ชารอนหลบหนีไปตั้งหลัก ตัวเราไปสมทบกับขุนนางเอคอร์นี่ทันเวลาพอดี และช่วยกันต้านกองทัพมอนเตอร์ที่ชารอนปล่อยออกมา และเราก็พบกับบุคคลที่เราไม่คาดฝัน
- เอดัวร์โดจำเซลวาไม่ได้ หลังจากที่ชารอนหลบหนีไป ขุนนางเอคอร์รี่ขอให้เราไล่ตามชารอนไปก่อน โดยเขาอยากพบกับเซลวาตามลำพัง
- ระหว่างที่เรากำลังค้นหาชารอน (และหนีมอนเตอร์อีกแล้ว) เซลวาเล่าเรื่องราวของเอดัวร์โดให้เอคอร์นี่ฟัง
- เอคอร์นี่ขอร้องให้เชลวาช่วยกันขัดขวางคอเทส ซึ่งเธอก็ตอบตกลง
- ทั้ง 3 คนพร้อมกองทหารเรศคิวไนท์ ได้ไปพบกับชารอนและคอเทส ซึ่งคอเทสกำลังทดลองสร้างพลังงานอะไรบางอย่างอยู่ แน่นอนว่าเราต้องเข้าขัดขวาง
- ระหว่างนั้นเอดัวร์โดโผล่ออกมาช่วย
- พวกเราต้านทานกองทัพมอนเตอร์ไม่ไหว และเซลวาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ปกติ จึงช่วยเราหลบหนีออกมาก่อน เราทั้ง 4 คนจึงหลบหนีออกมา เพราะว่าการทดลองของคอเทสผิดพลาด แรงกระแทกของเวทมนต์ส่งผลบางอย่างกับคอเทส ก้อนบรรจุพลังงานจึงลอยออกมา และผู้ที่หยิบมันมาไว้ในกำมือก็คือ
- พวกเราทั้งที่บาดเจ็บและทำอะไรไม่ได้ เลยต้องถอนตัวกลับกัน ระหว่างนั้นเซลวาและเอดัวร์โดหลบหนีไปทางเดียวกัน บอกไม่ได้ว่าหนีไปด้วยกันไหม
- ขุนนางเอคอร์นี่กล่าวขอขอบคุณเราและเล่าให้ฟังถึงมอน โตโร
- ปริศนาที่ยังหลงเหลืออยู่คือ พลังงานที่ว่านั้นคืออะไร และเซลวากับเอดัวร์โดหนีไปกันที่ไหน ปริศนาที่ยังรอคอยการค้นพบ

############################################################################
บทที่ 7 เหตุการณ์ในทวีปซีอาร์ (นครเออร์รัค)



- ได้มีการค้นพบทางเข้านครเออร์รัคโดยบังเอิญจากนักสำรวจ ทางเบื้องบน นำโดยองค์หญิงเกเบรียลล่าและเชอร์ ลินคอน เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธไมตรีกับทวีปใหม่ โดยการส่งผู้นำของนักสำรวจไปเจรจา
- มีรายงานว่าพบมอนโตโรที่ทวีปซีอาร์ แต่ไม่ได้รับการยืนยัน
- คอเทส ใช้เวทย์รักษาตัวเองและแอบมาหลบซ่อนหลังตู้หนังสือลั บของ ดร.ท็อช โดยที่ ดร.ท็อช ไม่รู้เรื่อง แต่เวทย์นั้นทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้
- เซลวายังคงไล่ล่ามอนโตโรและคอเทส
- ตัวเราเดินทางไปที่ทวีปซีอาร์ และพบผู้นำของนครเออร์รัค
- นาร์ ทหารเอกของนครเออร์รัคยอมรับว่าตนเองพบกับพ่อของเอมิ เลียจริง เธอกึ่งดีใจและเสียใจที่ได้เบาะแสของพ่อของเธอแล้ว และได้นำบันทึกของพ่อของเธอมาศึกษา
- ชารอนพบกับคอเทส
- มีรายงานว่าพบบุคคลที่คล้ายกับแคทเทอรีน ลูกสาวของ ดร.ท็อช บริเวณทุ่งนํ้าแข็งเทโควิค โดยเธอเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก
- องค์หญิงเกเบรียลล่า ติดต่อกับคณะละครสัตว์ อิลเลียร์ เพื่อมาจัดแสดงที่เมืองรีบอโดซ์
- ตัวเราค้นพบคอเทสหลังห้องสมุดของ ดร.ท็อช และได้ยอมเชื่อคอเทสโดยปลดผนึกให้ โดยที่เชลวาไม่เห็นด้วย ระหว่างนั้นชารอนแอบจับตามองดูเราทุกฝีก้าว เราช่วยได้สำเร็จ แต่ทว่าคอเทสกลับหาเรื่องทรยศ โดยร่วมมือกับชารอนคิดฆ่าปิดปากเรา เซลลาเห็นแล้วทนไม่ไหวจึงมาร่วมต่อสู้กับเราด้วย คอเทสถูกกำจัด แต่ชารอนเจือกหนีไปได้ เซลวาจึงยอมตกลงร่วมทางไปกับเราเพื่อตามล่ามอนโตโร
- ข่าวลือเรื่องคณะละครสัตว์ได้ยินกันใมนหมู่ของสภาอิสระ
- ไซม่อน อเยน พบว่าละครสัตว์ที่ว่านี่คือมืิอสังหารที่แฝงตัวมาเพื่อลอบสังหารอิมิเีลีย หลังจากที่ทัี้งเรา นาร์ และ อาเนีย ได้เปิดโปงตัวจริงแล้ว พวกมันก็ได้ถอยหนีไป เรื่องราวนี้เหมือนเจ้าหญิงแกเบียล่าจะไม่รู้เรื่อง
- อาเนียพบกับอิมิเลียเพื่อแจ้งเบาะแสเรื่องราวของพ่้อของอิมิเลีย
- มีรายงานว่าพบมอนโดโรที่ทุ่งนั้าแข็งเทโควิค แต่ไม่ได้รับการยืนยัน
- อิมิเลียได้ศึกษาอักษรรูนโบราณ จนทำให้เธอได้รับพลังร่างมืดมา



############################################################################

ความลับของธาตุทั้ง 5 ธาตุน้ำ-น้ำพุศักดิ์สิทธิ์



- เกอร์ทูตเป็นห่วงเรื่องการศึกษาอักษรรูนโบราณจึงชวนเราไปหาเอมิเลียที่ห้องวิจัยในเมืองโคอิมบราซึ่งก็ได้พบกับเอมิเลียร่างมืดอยู่ที่นั้น จึงได้ต่อสู้กันเพื่อเรียกสติของเอมิเลียกลับคืนมา
- เราและเอมิเลียได้เดินทางไปที่เออรัคเพื่อขอพบกับเจ้าหญิงฮาร์มัน ในเรื่องของการเดินทางไปที่ดินแดนแห่งสวรรค์ ฮาร์มันได้พูดถึง สิ่งที่ใช้ในการเปิดประตูไปที่ดินแดนแห่งสวรรค์
นั้นก็คือธาตุทั้ง5ที่อยู่ในดินแดนแห่ง Granadoespadaประกอบด้วย ธาตุน้ำ-น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ / ธาตุลม-โอไทด์แห่งลม / ธาตุไฟ-ก๊าซไฟลุก / ธาตุดิน-โรโดไลท์ และ ธาตุหัวใจ-หัวใจของตระกูลเทพเจ้า
ซึ่งฮาร์มันก็คือผู้สืบเชื้อสายจากเทพเจ้าโบราณ การที่เราจะเดินทางไปที่แห่งนั้น ก็หมายถึง ต้องรวบรวมธาตุทั้ง5ให้ครบ (และต้องฆ่าฮาร์มันเพื่อเอาหัวใจเทพเจ้าด้วยนั้นเอง)
- อังเดรได้เรียกตัวเราและให้เราไปตรวจสอบเกี่ยวกับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แห่งอัลเควซ เมอรันซ่า อีกครั้ง เมื่อเราไปตรวจสอบก็พบกับห้องลับและได้ต่อสู้กับ ลอร์ดฟูรูโฮแลน พ่อของลอช แต่เราไม่สามารถสู้ได้จึงล่าถอยกลับมา
- อังเดรได้ตกใจเกี่ยวกับการปรากฎตัวของลอร์ดฟูรูโฮแลน และทำให้เราได้รู้ว่าเขาก็เป็น 1ใน10 ขุนนางแห่งเวสปาโนล่า
- อังเดรได้ให้เราไปหาวินเซนต์และลอชเพื่อหาทางรับมือ เราได้รู้ประวัติของวินเซนต์ และความแค้นของตระกูล ริโอและฟูรูโฮแลน เราได้ไปพบกับลอชและเล่าเรื่องที่เจอพ่อของลอชในทวีปใหม่แห่งนี้
ลอชจึงช่วยปรุงยาสูตรลับของตระกูล เพื่อใช้ป้องกันคำสาปของตระกูลฟูรูโฮแลนให้ โดยมีข้อแม้ว่าอย่างฆ่าพ่อของเขาเป็นอันขาด
- เราต่อสู้กับพ่อของลอชและสามารถช่วยเหลือได้ แต่ไม่สามารถช่วยเจอร์เก้น พี่ชายของลอชได้ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแผนการทั้งหมด นั้นก็คือมอนโตโร่นั้นเอง มอนโตโร่เมื่อเห็นว่าสุ้ไม่ได้เลยหลบหนีไปพร้อมกับเจอร์เก้น
- เราได้พบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในห้องลับของอัลเควซ เมอรันซ่าและเก็บไว้กับตัวเอง
- เราได้พาลอร์ดฟูรุโฮแลนไปส่งที่ท่าเรือ พ่อของลอชขอโทษการกระทำในอดีตทั้งหมดกับวินเซนต์ และมอบบันทึกเกี่ยวกับพลังแห่งดวงดาวของตระกูลริโอให้วินเซนต์
- มอนโตโร่หนีมาหลบอยู่ชั้นใต้ดินของคฤหาส์ ดร.ทอช โดยที่มีแคทเทอรีน ทอร์ช ลุกสาวของ ดร.ทอร์ฃเป็นตัวประกันสิ่งที่เขาต้องการก็คือการทดลองค้นคว้าเกี่ยวกับพลังงานแห่งโอไทด์ธาตุลมนั้นเอง

############################################################################
ความลับของธาตุทั้ง 5 ธาตุลม – โอไทด์แห่งลม



- มอนโตโร่ที่ซ่อนตัวอยู่ในชั้นใต้ดินของคฤหาส์ ดร.ทอช กำลังหาวิธีที่จะนำพลังงานโอไทด์มาใช้กับตนเพื่อที่ตนเองจะได้มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่และครอบครองดินแดน Granadoespada เป็นของตัวเอง และวางแผนว่าเมื่อทำสำเร็จจะให้แคทเทอรีน สังหาร ดร.ทอช เพื่อที่จะได้ไม่มีคนรู้เกี่ยวกับพลังงานโอไทด์อีก มอนโตโร่จะได้เป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียว

- ขณะเดียวกัน วินเซนต์ที่ได้รับบันทึกเกี่ยวกับพลังแห่งดวงดาว จากลอร์ดฟูรูโฮแลน พ่อของลอช แต่ยังไม่เข้าใจเนื้อหาทั้งหมดจึงได้เดินทางไปที่เออรัคเพื่อสอบถามเกี่ยวกับอารยธรรมโบราณกับอาเนีย และได้รู้ว่าบันทึกนี้เป็นบทเพลงแห่งดวงดาว แต่มีเนื้อเพลงไม่สมบูรณ์อาเนียจึงได้ให้วินเซนต์เดินทางไปที่ โอกุลตา เพื่อหาเนื้อเพลงที่แกะสลักอยู่ที่พนังที่นั้น วินเซนตืเดินทางไปที่โอกุลตา และได้พบเนื้อเพลงที่หายไป ในที่สุดวินเซนต์ก็สามารถใช้พลังบทเพลงแห่งดวงดาวได้อย่างสมบูรณ์

- เราได้เดินทางไปหา ดร.ทอช และได้ยิน ดร.ทอช พูดคุยกับมอนโตโร่ มอนโตโร่ข่มขุ่ ดร.ทอชให้บอกเกี่ยวกับพลังงานโอไทด์ ให้กับตัวเขาไม่อย่างงั้น แคทเทอรีนจะต้องตาย เมื่อการสนทนาจบลงเราได้เดินทางไปที่ห้องใต้ดินของคฤหาส์ ดร.ทอช เพื่อตามหามอนโตโร่ เมื่อมอนโตโร่เห็นเราจึงได้สั่งให้แคทเทอรีนจัดการสังหารพวกเราทันที เราตกใจมากเมื่อได้พบกับแคทเทอรีนตัวจริงที่นึกว่าตายไปแล้ว แคทเทอรีนมีวิชาต่อสู้ที่ร้ายกาจ ขณะที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นเอง แคทเทอรีน เพลอไปเห็นแคทเทอรีนหุ่นที่เราพามาด้วยเข้าจึงเกิดความสบสันและพลาดท่า แพ้ให้กับเราไปในที่สุด มอนโตโร่โกรธแค้นและหนีหายไปอีกเช่นเคย เราจึงได้จับแคทเทอรีนไปหา ดร.ทอช เพื่อถามเรื่องทั้งหมด
ดร.ทอชเห็นแคทเทอรีนก็ดีใจ ทว่า จิตใจของแคทเทอรีนถูกครอบงำด้วยเวทย์มนต์อย่างอยู่จึงทำให้เธอจำอะไรไม่ได้เลย ดร.ทอชรู้เรื่องที่เราเก็บน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัลเควซเมอรันซ่ามาได้ จึงขอร้องให้เรามอบให้เขาเพื่อช่วยเหลือแคทเทอรีนเราได้มอบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ให้ ดร.ทอชนำมาสกัดและให้แคทเธอรีนดื่ม บางสิ่งบางอย่างที่ครอบงำตัวแคทเทอรีนอยุ่ก็ได้หายไป แคทเทอรีนได้สติและจำเรื่องราวของ ดร.ทอชได้ ดร.ทอชดีใจมาก ในที่สุดพ่อกับลูกก็ได้พบกันอีก
ครั้ง

- แคทเทอรีน ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตให้ฟังว่า หลังจากที่เธอถูกทำให้ตายและลักพาตัวไปนั้น เฮอร์นันเดซ หัวหน้า 10 ขุนนาง ได้ชุบเลี้ยงโดยให้เธอไปศึกษาร่ำเรียนเกี่ยวกับวิชาการต้อสู้และลอบสังหารในองค์กรนักฆ่า (ที่เดียวกับเฮเลน่าและสมาชิกคนอื่นๆใน คณะละครสัตว์อาร์เซ็นต์ ) หลังจากเมื่อแคทเทอรีนสำเร็จวิชาทั้งหมด มอนโตโร่จึงได้ขอตัวแคทเทอรีนไปเป็นนักฆ่าส่วนตัว และพาเดินทางมาที่ทวีปใหม่แห่งนี้ (จริงๆมอนโตโร่ต้องการใช้แคทเทอรีน ข่มขู่ ดร.ทอช ให้บอกเรื่องเกี่ยวกับพลังงานของโอไทด์กับตนเอง) ส่วนเรื่องที่แคทเทอรีนจำความไม่ได้น่าจะเป็นเพราะเวทย์มนต์ของเฮอร์นันเดซที่สะกดและครอบงำจิตใจแคทเทอรีนไว้ เพราะเฮอร์นันเดซ ถือว่าเป็นจอมเวทย์ที่แข็งแกร่งสุดในเวสปาโนล่า ดร.ทอชกลัวแคทเทอรีนจะมีอันตรายจึงได้ฝากแคทเทอรีนไว้กับพวกเรา โดยหวังว่าเราซึ่งเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งและมีใจรักความยุติธรรมจะสามารถปกป้องแคทเทอรีนจากมอนโตโร่และเฮอร์นันเดซได้ ก่อนจากกัน ดร.ทอช ได้มอบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่แปรรูปแล้วคืนให้แก่เรา เพราะสามารถพกพาได้สะดวกกว่าและจำเป็นกับพวกเราในการตามหาพลังของธาตุทั้ง 5 ให้ครบ เราได้ออกเดินทางต่อไป

- ขณะเดียวกัน ไซมอนต์ อาเยนต์ หัวหน้าฝ่ายสภาแห่งเมืองอุชได้ทราบถึงห้องขังลับในเรือนจำจาควิน และส่งคนออกตามหาความจริงว่าในห้องลับแห่งนั้นซ่อนอะไรไว้อยู่กันแน่

############################################################################

เจ้าหญิงวาเลเลีย เชื้อพระวงศ์ที่หายสาปสูญ/ดินแดนใหม่แคสทีร่า/โอไทด์แห่งลม2




- ไซมอนต์ อาเยนต์ หัวหน้าฝ่ายสภาแห่งเมืองอุชได้ค้นพบห้องขังลับที่เรือนจำจาควิน ที่นั้นเองมีคนแจ้งว่าได้พบกับเจ้าหญิงกาเบียร่าถูกล่ามโซ่ไว้อยู่ ซึ่งไซมอนต์ คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพื่อสืบหาความจริงจึงได้เรียกตัวเราและขอร้องให้เราไปตรวจสอบที่ห้องขังแห่งนั้น เพราะสงสัยว่าสิ่งที่ขังอยู่ข้างในต้องมีความสำคัญมากๆ ถึงได้มีการซ่อนและปกปิดไว้เป็นความลับขนาดนี้ เราจึงได้เดินทางไปที่เรือนจำจาควินบริเวณห้องขังลับที่ว่านั้นทันที ณ ห้องด้านในสุดเราได้พบกับหญิงสาวที่มีหน้าตาเหมือนเจ้าหญิงกาเบียร่า ถูกล่ามโซ่ไว้ที่เสากลางห้อง สภาพดูอ่อนแรงอย่างมาก ขณะนั้นเองได้มีผู้คุมนักโทษที่มีรูปร่างใหญ่โตเข้ามาโจมตีเราเราจึงได้ต่อสู้และชนะผู้คุมไปได้ในที่สุด เราได้ปลดปล่อยหญิงสาวผู้นั้นและพากลับมาหา ไซมอนต์ อาเยนต์ ที่เมืองอุชทันที

- ไซมอนต์ เมื่อเห็นก็ตกใจอย่างมาก และได้ช่วยเหลือเธออย่างเต็มที่ ขนาดเดียวกันก็ได้สืบเรื่องราวๆต่างๆและได้รับรู้ว่า เธอคือ วาเลเลีย น้องสาวฝาแฝดของเจ้าหญิง กาเบียร่า เนื่องจากว่าราชินีเอสเพอรันซ่า ได้มีพระราชธิดา 2 พระองค์เป็นฝาแฝดกัน แต่เจ้าหญิงวาเลเลียเกิดที่หลัง เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในราชวงศ์ และป้องกันการแย่งชิงราชสมบัติกัน จำเป็นที่จะต้องประหารคนที่เกิดที่หลัง แต่ราชินีเอสเพอรันซ่า ไม่สามารถที่จะสั่งประหารวาเลเลียได้ ดังนั้น ขุนนางต่างๆจึงลงความเห็นว่าให้นำเจ้าหญิงวาเลเลียไปขังไว้สักที่หนึ่ง และปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ราชินีเอสเพอรันซ่า เห็นว่ายังดีกว่าให้ถูกประหารจึงยินยอม โดยให้เซอร์ลินดอน เป็นผู้จัดการ เซอร์ ลินดอนจึงได้สั่งสร้างห้องลับที่เรือนจำจาควิน และขังเจ้าหญิงไว้ ไม่ให้ได้เห็นโลกภายนอกอีก

- เมื่อเจ้าหญิงวาเลเลียได้ออกมาจากที่คุมขังแล้ว เจ้าหญิงอาจเป็นอันตรายได้ เพื่อความปลอดภัย ไซมอน จึงปิดบังเรื่องเจ้าหญิงวาเลเลียเป็นความลับและให้เข้ารวมกับตระกูลเราเพื่อไม่ให้ทางฝ่ายเจ้าหญิงกาเบียร่ารู้ว่าตัวเองมีน้องสาวฝาแฝดอยู่ด้วย

- ขณะเดียวกัน เวสปาโนล่าค้นพบดินแดนแห่งใหม่และตั้งชื่อว่า แคสทีร่า เนื่องจากเป็นพื้นที่ใหม่ที่เพิ่งเริ่มการสำรวจ ทางเวสปาโนล่าจึงได้ส่งทหารมาตั้งแคมป์ในการสำรวจอย่างจริงจังและได้ขอร้องให้ทางนักสำรวจแห่งGranadoespada มาร่วมสำรวจด้วย เซอร์ลินดอนจึงให้นักสำรวจที่สนใจร่วมสำรวจในแคสทีร่าได้ทันที ในตอนท้ายที่สุดเราได้ค้นพบว่าที่แห่งนั้นเองก็มีอารยธรรมโบราณที่มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่อยู่เช่นเดียวกับที่Granadoespada แต่ดินแดนแคสทีร่านั้นกว้างใหญ่ดังนั้น คณะนักสำรวจแคสทีร่าจึงเดินหน้าสำรวจกันต่อไป

- เราอยากคุยกับ ดร.ทอช เกี่ยวกับเรื่องความลับธาตุทั้ง5 เราจึงได้เดินทางไปหา ดร.ทอช ที่คฤหาส์ทันที เมื่อไปถึง ดร.ทอชได้กล่าวว่าเขาได้เจอ พลังของธาตุลม 1ใน 5ธาตุแล้ว ซึ่งอยู่ที่ชั้นใต้ดินของคฤหาส์นั้นเอง เราจึงได้เดินทางไปเอา โอไทด์แห่งลม เมื่อเราได้มาแล้ว ดร.ทอชจึงทำการสกัดเพื่อจะเอาพลังแห่งธาตุลม แต่แล้วจู่ๆเจอร์เก้นก็ปรากฎตัวขึ้น เกิดการต่อสู้กันระหว่างเราและเจอร์เก้น ในที่สุดเราก็สามารถจับเจอร์เก้นได้

- เจอร์เก้นถูกมอนโตโร่สั่งให้มาขโมยโอไทด์แห่งลม เราพยายามที่จะใช้น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือแต่ก็ไม่เป็นผล แคทเทอรีนเห็นว่าเกินที่จะช่วยเหลือได้แล้ว คิดจะฆ่าเจอร์เก้นทิ้ง แต่ด้วยความใจอ่อนของเราและ ดร.ทอช จึงไม่ได้ห้ามแคทเทอรีนไว้ ทว่าขณะนั้นเองเจอร์เก้นได้ใช้ช่วงนั้นหลบหนีไปพร้อมขโมยโอไทด์แห่งลมจากดร.ทอชไปด้วย ลอชส่งจดหมายมาถึงเราเกี่ยวกับพ่อของเขา ดร.ทอชให้เราไปหาลอชก่อนส่วนเรื่องโอไทด์แห่งลมถ้าเราได้เบาะแสของมอนโตโร่ก็คงจะตามหาเจอ เราได้ลาจากดร.ทอชเดินทางมาที่เมืองอุช เพื่อมาหาลอช

- ลอชขอบคุณสำหรับการช่วยพ่อเขาครั้งก่อน และได้มอบจดหมายของลอร์ดฟูรุโฮแลน พ่อของลอชให้กับเรา เนื้อความเป็นการแสดงความขอบคุณที่เราได้ช่วยเขาเอาไว้ และลอร์ดฟูรูโฮแลนได้ให้เบาะแสเกี่ยวกับมอนโตโร่และคิดว่ามอนโตโร่น่าจะอยู่ที่เกาะไวรอน พร้อมแนบเอกสารการยืนยันในฐานะนักสำรวจที่เกาะไวรอนให้กับเราอีกด้วย เราจึงเดินทางไปที่เกาะแห่งนั้นทันที เพื่อตามหามอนโตโร่และตามเอาโอไทด์แห่งธาตุลมคืนมา

############################################################################
ไวรอน เกาะปีศาจ/ราเวนพ่อบ้านปราสาทเพลโรม/สาวผมแดงปริศนา



- เราได้ไปหากัปตันริคาร์โด้และออกเดินทางไปที่เกาะไวรอน ที่นั้นเองเราได้ยินคำล่ำลือเกี่ยวกับเกาะแห่งนี้ว่ามีปีศาจอาศัยอยู่ หลายคนจึงเรียกเกาะไวรอนว่าเกาะปีศาจ เมื่อเดินทางมาถึง เราได้เดินทางไปหา เลโอเนลผู้ตรวจการที่เกาะไวรอนแห่งนี้ เลโอเนลเมื่อได้เห็นหนังสือรับรองจากลอร์ดฟูรูโฮแลนแล้วก็กล่าวต้อนรับ และทำให้เราได้รู้ว่า เลโอเนลก็เป็นคนในตระกูลฟูรูโฮแลนเหมือนกัน ซึ่งเลโอเนลได้แนะนำเรื่องต่างๆและย้ำเราว่าห้ามออกไปนอกเมืองเป็นอันขาด และให้เราเดินทางไปหาผู้ดูแลเมือง ฟาเรล เมื่อเราไปถึงและแนะนำตัวกับฟาเรล ฟาเรลไม่สนใจเราเท่าไร อีกทั้งเหมือนจะไม่ชอบที่เราเดินทางมาที่เกาะไวรอนอีกด้วย เราจึงเดินทางกลับไปหาเลโอเนล เพื่อสอบถามเรื่องต่างๆ

- เลโอเนลได้เล่าให้ฟังถึง ประวัติของเกาะไวรอน ว่าที่แห่งนี้ถูกครอบครองโดยประเทศเวสปาโนล่ามานานแล้วก่อนที่จะได้พบกับดินแดน Granadoespada ซะอีก เกาะแห่งนี้นอกเมืองมีปราสาทเพลโรม ตั้งอยู่ เราให้ความสนใจกับปราสาทหลังนั้นมาก และอยากออกเดินทางไปนอกเกาะไวรอน เลโอเนลจึงบอกว่าเราต้องได้รับการอนุญาตจากฟาเรลก่อนถึงจะออกจากเมืองได้ เราจึงเดินทางไปหาฟาเรลทันที

- ฟาเรลเห็นเราสนใจเกี่ยวกับปราสาท เพลโรม จึงได้อนุญาตให้เราเดินทางออกนอกเมืองได้และบอกอีกด้วยว่าจะแนะนำให้รู้จักกับคนที่สามารถพาไปที่ปราสาทได้ เราออกเดินทางไปนอกเมืองไวรอน เพื่อไปพบกับคนๆนั้นทันที เมื่อเราออกเดินทางไปนอกเมือง เราได้พบกับสาวสวยคนหนึ่งที่มีผมสีแดงดั่งเลือด เธอเข้าโจมตีเรทันทีจึงเกิดการต่อสู้ขึ้น ไม่นานเธอก็หนีหายจากไปสร้างความสงสัยอย่างมากว่าเธอเป็นใครกันแน่

- ที่นั้นเองเราได้พบกับชายคนหนึ่ง เขาแนะนำว่าเขาชื่อราเวน เป็นพ่อบ้านแห่งปราสาท เพลโรม เราได้ถามราเวนเกี่ยวกับปราสาทเพลโรมว่าเจ้าของปราสาทเพลโรม คือ วิสเคาท์ มอนโตโร่ใช่ไหม ราเวนจึงเล่าประวัติของปราสาทเพลโรม ให้ฟังว่า สร้างขึ้นโดย เฮอร์นันเดซ หัวหน้า10ขุนนาง ตัวปราสาทถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการทดลองเวทย์มนต์ของเฮอร์นันเดซ หลังจากนั้น ก็ถูกปล่อยให้ทิ้งร้างมานาน วิสเคาท์ มอนโตโร่ จึงได้ขอปราสาทเพลโรม มาเป็นของตนเอง ด้วยความน่ากลัวของปราสาทและคำล่ำลือต่างๆ ปราสาทแห่งนี้จึงถูกขนานามว่าเป็น ปราสาทลูซิเฟอร์ (ปราสาทที่เป็นที่อยู่ของปีศาจ)นั้นเอง เราได้ขอร้องให้ราเวนช่วยพาไปที่ปราสาทแห่งนั้นให้ที ราเวนจึงบอกไม่สามารถทำได้เพราะตัวเขาเองโดนคำสาปจาก มอนโตโร่ ซึ่งความจริงแล้วเขาเป็นทหารจากบริสเทีย แต่ถูกมอนโตโร่จับมาทดลองและถูกสาปให้เป็นทาสค่อยเฝ้าดูแลปราสาทอยู่ที่แห่งนี้ ราเวนขอร้องให้เราช่วยหายาถินคำสาปให้ที ถ้าถอนคำสาปได้เขาจะพาเราไปที่ปราสาทแห่งนั้น

- เราไม่ค่อยไว้ใจราเวนเท่าไร จึงเดินทางกลับไปหากราเซีย เพื่อสอบถามเกี่ยวกับคนที่ชื่อราเวน กราเซียรู้จักราเวน เพราะเขาเป็นถึงหัวหน้ากองกำลังบริสเทียในการต่อสู้กับเวสปาโนล่า ช่วงสงคราม3ปี เราจึงได้พากราเซียมาหาราเวน เพื่อยืนยันว่าใช่ราเวนจริงๆหรือไม่ กราเซียเมื่อพบราเวน ก็ดีใจที่ราเวนยังไม่ตายและกล่าวว่าเขาคือราเวนจริงๆ เราจึงตกลงที่จะช่วยเหลือหาทางในการถอนคำสาปให้ราเวน
เราเดินทางไปหาเลโอเนลที่เมืองไวรอนเพื่อหาวิธีแก้คำสาปเลโอเนลจึงแนะนำให้ไปหาเวโนรีฟหญิงสาวที่เก่งกาจเรื่องหารเล่นแร่แปรธาตุ เราเดินทางไปพบเธอในครั้งแรกเธอรู้สึกไม่ชอบเราเนื่องจากเราเป็นนักสำรวจ แต่เมื่อเธอได้เห็นว่าเราสามารถออกไปนอกเมืองได้ อีกทั้งยังสามารถต่อสู้ได้ จึงให้ความสนใจเราทันที และได้ขอร้องให้เราช่วยไปหาหัวใจของการัสมาให้เธอก่อนแล้วเธอจะทำยาถอนคำสาปให้ เราได้เดินทางไปสู้กับการัสเพื่อเอาหัวใจมาให้เธอ เมื่อได้มาแล้ว เธอได้มอบขี้ผึ้งแก้คำสาปให้กับเรา เราจึงได้นำมาให้ราเวนใช้ผลคือ หน้าตาของราเวนเปลี่ยนไป ไม่ดูโทรมและซูบผอมเหมือนเดิม นั้นหมายถึงขี้ผึ้งนี้ได้ผลสามารถถอนคำสาปได้ ราเวนกล่าวขอบคุณและขอเดินทางไปเป็นนักสำรวจกับเราด้วย ซึ่งเราก็ยินดี ราเวนได้ให้เราเดินทางไปที่ ทางเข้าของปราสาทเพื่อที่จพาเราไปปราสาทลูซิเฟอร์เราจึงได้ออกเดินทางทันที

- ระหว่างนั้นเอง หญิงสาวผมแดงก็ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งและเข้ามาโจมตีเพื่อขัดขวางเรา เราจึงรู้ได้ว่าเธอก็คงไปเป็นผู้ดูแลปราสาทเหมือนกัน ฝีมือเพลงดาบของเธอร้ายกาจอย่างมาก แต่การต่อสู้ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะเธอก็ได้หนีไปซะก่อน เราพาราเวนมาถึงทางเข้าปราสาทลูซิเฟอร์ ที่นั่นเองเราได้พบกับสาวผมแดงอีกครั้ง เธอได้เรียกฝูงมอนเตอร์ ออกมาช่วยต่อสู้ เราต่อสู้กับสาวผมแดงและฝูงมอนเตอร์อยู่นั้นเอง คำสาปของราเวนก็แสดงผลอีกครั้ง ราเวนถูกครอบงำและหันมาโจมตีเราแทนเราต่อสู้กับราเวนเพื่อเรียกสติกลับคืนมาสำเร็จ ส่วนสาวผมแดงปริศนาก็ได้หนีหายเข้าไปในทางเข้าปราสาทลูซิเฟอร์ เราไม่สามารถตามเข้าไปได้เพราะมีเวทย์มนต์บางอย่างป้องกันไม่ให้เราเข้าไป เราจึงได้เดินทางกลับมาที่เมืองเพื่อรักษาราเวนและหาทางทำลายเวทย์มนต์เพื่อเข้าไปยังปราสาทลูซิเฟอร์เพื่อจัดการมอนโตโร่ให้ได้

############################################################################
สงครามกลางเมือง ไซมอนต์ VS กาเบียร่า



หลังจากที่เราได้ปลดปล่อยวาเลเลีย และได้ช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้วาเลเลียอยู่ภายใต้ความคุ้มครองจาก ไซมอนต์ อาเยนต์ เนื่องจาก ไซมอนต์ไม่ต้องการให้เธอเป็นอันตราย เรื่องนี้ก็ได้รู้ไปถึง สตราต้า วิสต้า แกรนดยุคฟิลิปเป้และเหล่าขุนนางทั้ง 10 แห่งเวสปาโนล่า ซึ่งทำให้เซอร์ลินดอน ถูกตำหนิและได้รับคำสั่งให้หาทางกำจัด วาเลเลีย ทิ้งเสียเพื่อรักษาความลับทั้งหมด แต่เซอร์ลินดอนได้วางแผนที่จะใช้องค์หญิงวาเลเลียสร้างความเสื่อมเสียแก่เจ้าหญิงกาเบียร่า เมื่อเชื้อพระวงศ์เกิดความเสื่อมเสียนั้นหมายถึง แกรนดยุคฟิลิปเป้ก็มีโอกาศที่จะได้ขึ้นครองราชย์มากขึ้น
วันต่อมาเซอร์ลินดอนปล่อยภาพเจ้าหญิงวาเลียที่อยู่กับไซมอนต์ ที่เมืองอุชและสร้างข่าวลือให้ว่า เจ้าหญิงกาเบียร่าเองมีสัมพันธ์ลับกับ ไซมอนต์ ซึ่งเป็นฝ่ายกบฎ เพราะหน้าองค์หญิงวาเลเลียกับกาเบียร่านั้นเหมือนกัน ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วดินแดน Granadoespada และ เวสปาโนล่า รวมถึงไซมอนต์ และเจ้าหญิงกาเบียร่าเองด้วย 

ด้วยความโกรธแค้นเพราะคิดว่าฝ่ายสภาอิสระเป็นคนปล่อยข่าวโดยการหาคนหน้าเหมือนตัวเองมาทำให้เสื่อมเสีย เจ้าหญิงกาเบียร่าจึงประกาศรวมพลเพื่อเปิดศึกกับฝ่ายสภาอิสระอย่างเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันไซมอนต์ อาเยนต์ก็เสียใจที่เกิดเรื่องผิดพลาดแบบนี้ขึ้น อีกทั้งยังไม่สามารถแก้ข่าวให้เจ้าหญิงกาเบียร่าได้ เพราะถ้าหากแก้ข่าวว่าไม่เป็นความจริง ทุกคนก็จะเพ็งเล็งมาที่ องค์หญิงวาเลเลียทันที ซึ่งอาจทำให้ความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผยว่าเชื้อพระวงศ์มีผู้สืบราชสมบัติ 2 พระองค์ อาจสร้างความเดือดร้อนให้วาเลเลียรวมไปถึงอาจเป็นชนวนเหตุในการเกิดการจราจลก็เป็นได้ ไซมอนต์ จึงตัดสินใจที่จะทำศึกอย่างเต็มรูปแบบกับฝ่ายจักรวรรดิ์

ซึ่งนี่ก็คือแผนการของ เซอร์ลินดอน เพราะถ้าไซมอนต์เปิดเผยความจริง องค์หญิงวาเลเลีย ก็จะต้องเป็นอันตรายหรืออาจถูกลอบสังหาร ถ้าไซมอนต์ไม่เปิดเผยความจริง ก็ต้องสู้กับฝ่ายจักรวรรดิ์ ซึ่งถ้าหากฝ่ายสภาอิสระแพ้ 10ขุนนาง สตราต้าวิสต้า และแกรนดยุคฟิลิปเป้ ก็จะหมดเสี้ยนหนามและดำเนินแผนการได้ต่อไป แต่ถ้าหากฝ่ายจักรวรรดิ์แพ้ เจ้าหญิงกาเบียร่าก็จะถูกมองว่าไม่มีความสามารถพอหรืออาจถูกมองว่าแพ้เพราะมีสัมพันธ์ลับกับไซมอนต์จริงๆ อาจทำให้ถูกปลดออกจากตำแหน่งและเป็นการก้าวขึ้นตำแหน่งราชาของแกรนดยุคฟิลิปเป้ ก็เป็นได้ สตราต้าวิสต้า และแกรนดยุคฟิลิปเป้ รู้สึกพอใจในแผนการนี้จึงปล่อยให้เซอร์ลินดอนดำเนินแผนการต่อไป

กาเบียร่าเรียกระดมพลฝ่ายจักรวรรดิ์เต็มกำลังเพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำศึกครั้งนี้เช่นเดียวกับไซมอนต์ที่ระดมผลเตรียมพร้อมรับมือสงครามเช่นกัน ไม่ช้าสงครามก็เริ่มต้นขึ้น สงครามครั้งแรกเกิดขึ้นที่เมืองโคอิมบรา ทุกคนต่างสู้อย่างสุดกำลังเพื่ออุดมการณ์ของตนเอง แต่เนื่องจากไซมอนต์และเจ้าหญิงกาเบียร่า ไม่ต้องการให้มีผู้คนล้มตายโดยเปล่าประโยชน์ ผลการต่อสู้จึงได้แค่เพียงต่างฝ่ายต่างล่าถอยกลับไป

ไซมอนต์ไม่ต้องการเห็นผู้คนล้มตายและอยากบอกความจริงให้กาเบียร่าได้รับรู้จึงได้จัดการประชุมเพื่อสันติภาพที่เมืองอุชขึ้นและได้เชิญเจ้าหญิงกาเบียร่ามาเพื่อเล่าความจริงให้ฟัง กาเบียร่าเมื่อรับรู้ความจริงทั้งหมดก็ตกใจ และได้ต้องการเจ้าหญิงวาเลเลีย น้องสาวของไปดูแลด้วยตนเอง แต่ไซมอนต์ ปฎิเสธ เพราะกลัวว่า องค์หญิงวาเลเลียจะมีอันตราย กาเบียร่าจึงต่อว่าไซมอนต์โดยคิดว่าจะกักขังน้องสาวของเธอไว้อีกเพื่อใส่ความคิดไม่ดีเกี่ยวกับเวสปาโนล่าให้เธอ การประชุมครั้งนี้จึงไม่เป็นผล ไซมอนต์จึงขอร้องแค่เพียงว่าให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ซึ่งเจ้าหญิงกาเบียร่าก็ตกลงจะเก็บเรื่องนี้ให้เป็นความลับ


สงครามจึงมีอย่างต่อเนื่องทว่า ไซมอนต์ ได้ทำการสืบเรื่องราวต่างๆของเบื้องหลังเหตุการณ์ในครั้งนี้และพบความจริงที่ว่า องค์กรลับสตราต้าวิสต้านั้นมีอยู่จริง และได้เชิญชวนเราให้เข้าองค์กรลับ Gleichstellung องค์กรลับที่มีไว้เพื่อต่อต้านจักรวรรดิและสตราต้าวิสต้า ซึ่งเราก็ต้องการรู้ความจริงเรื่องราวทั้งหมดเช่นกันจึงเข้าร่วมองค์กรด้วย ซึ่งไซมอนต์ก็ได้ให้ตราประทับจากส่วนกลางแห่งเวสปาโนล่าในการสำรวจหอนาฬิกาที่เกาะไวรอนซึ่งเป็นเกาะหนึ่งในเมืองขึ้นของเวสปาโนล่า ซึ่งตราประทับนี้ไซมอนต์ปลอมแปลงขึ้นมาเพราะการสำรวจหอนาฬิกาต้องได้รับการรับรองจากส่วนกลางของเวสปาโนล่าเสียก่อนซึ่งการยื่นเรื่องโดยตรงอาจถูกเพ่งเล็งจาก10ขุนนาง แกรนดยุคฟิลิปเป้และสตราต้าวิสต้าได้ จึงต้องปลอมแปลงขึ้นมา เพื่อให้เราใช้ในการเข้าออกหอนาฬิกาไวรอนและสืบเรื่องราวต่างได้อย่างสะดวก ตอนนี้เราได้อยู่องค์กรลับ Gleichstellung และออกเดินทางต่อไปเพื่อสืบหาความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น และปกป้องสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป

############################################################################
ห้องแห่งความลับชั้นใต้ดิน ปราสาทลูซิเฟอร์ / จุดจบของคอร์เทสผู้น่าสงสาร

- หลังจากเราพาราเวนกลับมารักษาแล้ว เราจึงได้เดินทางไปหาผู้ดูแลเมืองฟาเรล เพื่อถามถึงวิธีการทำลายเขตอาคมที่ปิดกั้นทางเข้าปราสาทลูซิเฟอร์ ฟาเรลจึงได้ให้เราไปรอที่หน้าทางเข้าพร้อมบอกจพาคนๆหนึ่งไปช่วยทำลายเขตอาคมให้ เราจึงเดินทางไปหน้าทางเข้าปราสาทลูซิเฟอร์ เมื่อรอได้สักพัก ฟาเรลก็พาคนที่สามารถทำลายเขตอาคมได้คนๆนั้นก็คือ

- เวโนรีฟ นั้นเอง เวโรนีฟเริ่มทำลายเขตอาคม ซึ่งก็ทำให้กับดักทำงานโดยมีฝูงมอนเตอร์ออกมาโจมตีผู้ที่จะทำลายเขตอาคม เวโรนีฟ จึงให้เราช่วยปกป้องเธอเนื่องจากการร่ายเวทย์มนต์ทำลายเขตอาคมนั้น ผู้ใช้เวทยืไม่สามารถต่อสู้ได้ เราจึงได้ต่อสู้กับฝูงมอนเตอร์จนในที่สุด เวโนรีฟก็ทำลายเขตอาคมที่ปิดทางเข้าปราสาทได้สำเร็จ ส่วนฟาเรล นั้นด้วยความกลัวฝูงมอนเตอร์จึงหนีกลับเมืองไป

- เวโนรีฟขอรับค่าตอบแทนเป็นชิ้นส่วนต่างๆของมอนเตอร์เพื่อใช้ในการค้นคว้าทดลอง และได้กลับไปยังเมืองเราจึงได้เดินทางต่อไปยังปราสาทลูซิเฟอร์ทันที เมื่อมาถึงเราได้พบปราสาทขนาดใหญ่อยู่บนผู้เขาสูง ดูลึกลับและน่ากลัวสมชื่อปราสาทลูซิเฟอร์และที่นั้นเองเราได้พบสาวผมแดงปริศนาอีกครั้ง ยังไม่ทันได้พูดคุยเธอก็หลบหนีไป เราเดินตามเธอไปจนถึงกระท่อมหลังหนึ่ง ทันใดนั้นเองก็มีมอนเตอร์ออกมาจากกระท่อมเพื่อโจมตีเรา เราจึงได้ต่อสู้กับมอนเตอร์จนชนะมาได้ แต่เมื่อเราสำรวจในที่ต่างๆก็ไม่พบทางเข้าไปยังปราสาทลูซิเฟอร์เลย

- เราเดินทางกลับมาเมืองเพื่อหาวิธีไปยังปราสาทลูซิเฟอร์อีกครั้ง เราเดินทางไปหา เวโนรีฟ เพื่อสอบถามเธอแต่เธอดูไม่สนใจเรา จนกระทั่งเธอได้เห็นก้อนไขมันที่ดูมันวาวและน่าสนใจติดตัวเราอยู่ ซึ่งได้มาจากการต่อสู้กับมอนเตอร์หน้ากระท่อมแห่งนั้น เธอจึงขอชิ้นส่วนไขมันนั้นไปตรวจสอบ เมื่อคิดว่าไม่มีคนช่วยได้เราจึงเดินทางไปสำรวจอีกครั้งหนึ่ง เมื่อไปถึงทางเข้าปราสาทลูซิเฟอร์เราจึงได้สำรวจดูและก็ได้พบกับลุกกุญแจและก้อนเนื้อชิ้นส่วนอะไรบางอย่างจึงเดินทางนำกลับมาให้ เวโนรีฟ ตรวจสอบพอเธอได้เห็นจึงแสดงความตื่นเต้นมากและบอกว่าเป็นชิ้นส่วนจากการทดลองอะไรบางอย่างอยู่ และถ้าเราพบอะไรอีกในบริเวณแห่งนั้นให้นำมาให้เธอดูด้วย

- เราเดินทางเพื่อที่จะไปกระท่อมแห่งนั้น ที่นั้นเองสาวผมแดงปริศนาได้ออกมาต่อสู้เพื่อขัดขวางเรา เราจึงจำเป็นต้องต่อสู้กับเธอ ในที่สุดเธอก็แพ้และได้หลบหนีเข้าไปในกระท่อมแห่งนั้น เราจึงรีบตามเธอเข้าไปในกระท่อมทันที เมื่อเข้าไปในกระท่อมเราจึงได้รู้ว่ามันเป็นทางเข้าไปในชั้นใต้ดินของปราสาทลูซิเฟอร์นั้นเอง เราเดินตามหาสาวผมแดงไปเรื่อยๆ จนได้พบกับผลึกแสงชิ้นหนึ่งที่มีแสงเปล่งประกาย จึงได้นำกลับมาที่เมืองเพื่อให้ เวโนรีฟ ดูทันที

- เมื่อเวโนรีฟได้ดูจึงได้บอกว่า นี่คือผลึกแห่งความทรงจำของใครบางคนอยู่ และได้ใช้พลังกับผลึกนี้จนทำให้เราได้เข้าไปเห็นเหตุการณ์ในความทรงจำของใครคนหนึ่ง คนๆนั้นก็คือ คอร์เทส หนึ่งในสิบขุนนางแห่งเวสปาโนล่านั้นเอง ในเหตุการณ์คอร์เทสร่วมมือกับมอนโตโร่เพื่อทดลองบางสิ่งบางอย่างอยู่ ทว่าคอร์เทสก็ยังไม่ไว้ว่างใจมอนโตโร่ที่เคยหักหลังเขาขโมยพลังแห่งยักษ์ที่ดินแดนเซเดคราม (เนื้อเรื่องแพทช์เวอร์ชั่น2.6) แต่มอนโตโร่ให้สัญญาว่าคอร์เทสต้องได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน คอร์เทสจึงยอมร่วมมือด้วย

ฉากความทรงจำของคอร์เทส



 - เนื่องจากผลึกเศษเสี้ยวความทรงจำของคอร์เทสเป็นชิ้นเล็กมากจึงมีความทรงจำเพียงเล็กน้อย เวโนรีฟ จึงให้เราสำรวจชั้นใต้ดินปราสาทลูซิเฟอร์อีก เพื่อได้เจอผลึกความทรงจำ และอาจทำให้รู้ความลับการทดลองของคอร์เทสและมอนโตโร่ได้ เรารับปากเธอและเดินทางไปสำรวจอีกครั้ง - เราเดินทางสำรวจชั้นใต้ดินปราสาทลูซิเฟอรือีกครั้ง และเราก้ได้พบกับผลึกชิ้นส่วนความทรงจำอีกชิ้นหนึ่งเราจึงได้นำกลับมาให้เวโนรีฟทันที เวโนรีฟได้ใช้พลังทำให้เราได้เห็นความทรงจำของคอร์เทสอีกครั้งหนึ่ง ที่นั้นเองมอนโตโร่และคอร์เทสกำลังทดลองกับมนุษยืเพื่อหาทางทำให้ตัวเองมีพลังที่แข็งแกร่ง แต่การทดลองไม่เป็นผลสำเร็จเพราะคนที่นำมาทดลองไม่สามารถรับกับพลังงานอันมหาศาลได้ ในตอนนั้นเองมอนโตโร่ได้ใช้พลังอัดใส่เข้าไปในตัวคอร์เทส และมอนโตโร่ได้พูดว่าคนที่จะทนพลังอันมหาศาลได้จะต้องเป็นนักเวทย์ที่เก่งกาจหรือมีพลังเวทย์ตั้งแต่แรกถึงจะสามารถรับเอาพลังงานที่ยิ่งใหญ่ได้ คอร์เทสโกรธแค้นที่โดนหักหลังอีกรอบ ตัวของเขากลายเป็นยักษ์ขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างเป็นหิน (พลังที่มอนโตโร่ใส่ร่างคอร์เทสน่าจะเป็นพลังแห่งยักษ์ที่มอนโตโร่ได้มาจากดินแดนเซเดครมนั้นเอง) ในที่สุดคอร์เทสก็ตกเป็นเครื่องมือในการทดลองของมอนโตโร่และกลายเป็นปีศาจหินขนาดยักษ์อยู่ภายในชั้นใต้ดินปราสาทลูซิเฟอร์ของมอนโตโร่ไปตลอดกาล

 ฉากคอร์เทสโดนหักหลังกลายเป็นปีศาจหินสโตนคอร์เทส

   

- เราและเวโนรีฟต่างรู้สึกสงสารคอร์เทสและตั้งใจที่ขัดขวางมอนโตโร่ ไม่ให้มอนโตโร่ได้พลังอันยิ่งใหญ่เป็นอันขาดเพราะไม่อย่างนั้นคงต้องมีผู้คนล้มตายอีกเป็นจำนวนมาก เราได้ลาเวโนรีฟเพื่อเดินทางสำรวจปราสาทลูซิเฟอร์ต่อไป แต่เราก็ได้สงสัยเกี่ยวกับหอนาฬิกาที่อยู่กลางเมืองไวรอน จึงได้เดินทางไปหาฟาเรลเพื่อสอบถามเกี่ยวกับหอนาฬิกาแห่งนี้ว่ามีความลับอะไรซ่อนอยู่

############################################################################

แพทช์ 9.0 สวนแห่งความลับ&ปีศาจร้ายเจอร์เก้น



หลังจากที่เราได้ดูเนื้อหาความทรงจำเกี่ยวกับ คอร์เทส 1 ใน 10ขุนนางผู้โชคร้าย ที่โดนมอนโตโร่ใช้เป็นร่างทดลองจนกลายเป็นปีศาจหินขนาดยักษ์ในชั้นใต้ดินของปราสาทมอนโตโร่แล้ว ขณะนั้นเองเลโอเนลได้ให้เราไปหาพร้อมกับแจ้งว่าพบทางเข้าสวนดอกไม้ซึ่งน่าจะเป็นทางเดินไปถึงปราสาทลูซิเฟอร์ได้และให้เราไปสำรวจทันที เราจึงได้ออกเดินทางไปสำรวจสวนแห่งนั้นว่าใช่ทางไปปราสาทลูซิเฟอร์หรือไม่ เมื่อไปถึงก็ได้พบกับสวนดอกไม้ที่มีความงดงามแต่แฝงไว้ด้วยอันตรายจากมอนเตอร์และต้นไม้กลายพันธุ์ ที่เป็นงานทดลองของมอนโตโร่ เต็มไปหมด และที่นั้นเองเราได้พบกับ สาวผมแดงปริศนาอีกครั้งเราจึงได้แอบตามเธอไปและเธอได้ไปพบกับใครบางคน คนๆนั้นก็คือมอนโตโร่ 1ใน10ขุนนาง ที่เรากำลังตามล่าอยู่นั้นเอง

แกรนดิสได้เดินทางมาหามอนโตโร่เพื่อขอพบกับ เฮอร์นันเดซ ผู้ที่เป็นเจ้าของปราสาทลูซิเฟอร์และเจ้าเมืองแห่งนี้ (ในจุดนี้น่าจะเป็นความทรงจำของแกรนดิสที่ในสมัยก่อนเมืองไวรอนถูกปกครองด้วย เฮอร์นันเดวหัวหน้าของ10ขุนนางนั้นเอง) มอนโตโร่ปฎิเสธไม่ให้พบกับเฮอร์นันเดซโดยบอกว่าเฮอร์นันเดซกำลังเข้าพบกับดยุค ฟิลิปเป้อยู่ และไล่ให้แกรนดิสกลับไป แกรดิสดึงดันที่จะเข้าไปพบเฮอร์นันเดซให้ได้ จึงเกิดการปะทะกันขึ้น มอนโตโร่เสกลุกน้องผีดิบเข้าโจมตีแกรนดิส แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ หลังจากเธอจัดการกับผีดิบเหล่านั้นเสร็จ แกรนดิสก็ใช้เพลงดาบเข้าโจมตีมอนโตโร่ทันที แต่ก็ไม่เป็นผล อีกทั้งยังถูกมอนโตโร่โจมตีกลับทำให้สลบไปก่อนที่มอนโตโร่จะพูดขึ้นว่า เขาจะไม่ฆ่าแกรนดิสเพราะเธอยังมีประโยชน์กับเขาอยู่อย่างมาก

หลังจากได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ด้วยความสงสัยในคำพูดของมอนโตโร่ ที่เรียกสาวผมแดงว่าแกรนดิส รวมไปถึงฝีมือการใช้ดาบใหญ่ที่แสนร้ายกาจ เราจึงเดินทางไปหาแกรนม่า ที่อัสทิวส์ทันที่ เมื่อไปถึงเราได้คุยกับแกรนม่าเพราะแกรนดิสเป็นชื่อเดิมสมัยเธอยังเป็นสาว และถามเธอว่าสมัยก่อนเธอนั้นมีผมสีแดงไหมซึ่งเธอก็ตอบว่าใช่ แต่เนื่องจากแกรนม่าก็ยังมีชีวิตอยู่ เราจึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคนๆเดียวกัน

เรากลับไปรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้เลโอเนลฟังเลโอเนลให้เราพักอยู่ที่นี่ก่อนเพื่อดูสถานการณ์ เจนิอาได้เข้ามาหาเราและขอร้องให้เราช่วยเธอในหารหาชิ้นส่วนจากสวนแห่งความลับนั้นให้หน่อยเพราะเธอก็เป็นหนึ่งในนักเล่นแร่แปรธาตุเช่นเดียวกับเวโนรีฟ เธอจึงไม่อยากน้อยหน้าเวโนรีฟในเรื่องงานทดลอง เราตกลงรับคำเธอ เราเดินทางไปที่สวนแห่งความลับเมื่อได้ของครบเราก็นำกลับมาให้เจนิอา เธอดีใจมากและบอกว่าจะช่วยเราในการสำรวจอย่างเต็มที่ เลโอเนลได้เรียกให้เราไปสำรวจที่สวนแห่งความลับอีกครั้งเพื่อหาร่องรอยหรือเบาะแสในการตามหามอนโตโร่ เราจึงได้เดินทางไปในสวนแห่งควมลับ ลึกเข้าไปข้างในเราได้พบชิ้นส่วนเครื่องจักรชิ้นหนึ่ง เราจึงได้เดินทางกลับมาให้เจนิอาดูแต่ทว่าเจนิอาไม่สามารถให้คำตอบได้และไม่สนใจในสิ่งที่เราเก็บมาเลยแม้แต่น้อย ตอนนั้นเองเราได้นึกถึง ดร.ทอร์ช และคิดว่าน่าจะให้คำตอบได้ จึงได้เดินทางไปหา ดร.ทอร์ชทันที

เมื่อไปถึงเราได้นำชิ้นส่วนนั้นให้ ดร.ทอร์ชดู ซึ่ง ดร.ทอร์ช ตกใจอย่างมากเมื่อได้เห็นชิ้นส่วนชิ้นนั้นพร้อมบอกว่านี่เป็นชิ้นส่วนจากอารยธรรมโบราณ ซึ่งน่าจะมาจากหอนาฬิกาไวรอน ชิ้นส่วนนี้น่าจะทำให้เกิดพลังงานบางอย่างได้เช่นพลังงานนิวเคลียร์เป็นต้น ดร.ทอร์ชขอชิ้นส่วนนี้เพื่อศึกษาต่อ ขณะนั้นเอง ดร.ทอร์ชก็ได้นำผลึกความทรงจำของใครบางคนที่ติดมาด้วยกับชิ้นส่วนออกมา และได้ให้คืนมาที่เรา เราจึงได้เดินทางไปหาเวโนรีฟเพื่อดูเหตุการณ์ความทรงจำ
เมื่อไปถึงเวโนรีฟได้ใช้พลังทำให้เราได้เห็นความทรงจำของเจอร์เก้น ที่ถูกมอนโตโร่ใช้พลังทำให้เป็นปีศาจ เจอร์เก้นยังไม่เป็นปีศาจเต็มตัวจึงคิดที่จะหนีแต่ถูกมอนโตโร่ใช้ให้แกรดิสไปตามจับมาได้ แกนดิสตอนนี้ถูกมอนโตโร่ควบคุมและสามารถสั่งให้ทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ มอนโตโร่ใช้พลังพยายามทดลองทำให้เจอร์เก้นเป็นปีศาจให้ได้ ถ้าเจอร์เก้นเป็นปีศาจสำเร็จ มอนโตโร่จะได้นำพลังนั้นมาใช้กับตัวเองเพื่อที่ตัวเองจะได้มีพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ความทรงจำก็สิ้นสุดลงตรงนี้ ซึ่งเวโนรีฟบอกว่าดูจากผลึกความทรงจำแล้วน่าจะยังเิกิดขึ้นได้ไม่นานและเราอาจจะช่วยเจอร์เก้นได้

เราได้ไปหาลอช และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ลอชฟัง ลอชจึงได้ขอร้องให้พาเขาไปด้วยเพื่อที่เขาน่าจะสามารถช่วยเรียกสติของเจอร์เก้นพี่ชายของเขาได้ เราตกลงและรีบออกเดินทางไปที่สวนแสงจันทร์ สวนที่อยู่ลึกเข้าไปข้างในสุดจากสวนแห่งความลับทันที เมื่อไปถึงสวนแสงจันทร์เราได้พบกับเจอร์เก้นร่างปีศาจ ลอชพยายามเรียกสติของพี่ชายให้กลับคืนมาแต่ทว่าไม่เป็นผล ขณะนั้นเองมอนโตโร่ ได้เดินทางมาพอดี และพูดว่าตอนนี้ไม่มีใครสามารถช่วยเจอร์เก้นได้อีกแล้วเพราะเจอรืเก้นได้กลายเป็นปีศาจเต็มตัวแล้ว ลอชดกรธมอนโตโร่มากและต้องการที่จะแก้แค้น ทว่าแกรนดิสก็มาถึง มอนโตโร่จึงได้พาเจอร์เก้นหลบหนีไปแล้วสั่งให้แกรนดิสมาสู้กับเรา เราสู้กับแกรนดิสได้สักพักหนึ่งก่อนที่เธอจะหนีหายไป แต่เราก็ได้รับบาดเจ็บจึงได้ถอยไปตั้งหลักก่อน


ลอชโกรธแค้นมอนโตโร่เป็นอย่างมากและเสียใจที่ตระกูลของเขาและพี่ชายต้องมาพบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ ลอชจึงได้ขอร้องให้เราช่วยเหลือพี่ชายเขาให้พ้นจากความทุกข์ทรมาณที่ต้องกลายเป็นปีศาจร้ายด้วย เรารับปากว่าจะช่วยเหลือเจอร์เก้นเท่าที่เราจะช่วยได้ ขณะนั้นเอง ดร.ทอร์ชแจ้งข่าวให้เราไปพบ เราจึงเดินทางไปหา ดร.ทอร์ช ซึ่ง ดร.ทอร์ชเล่าให้เล่าฟังว่าเขาสามารถนำชิ้นส่วนที่เราให้มาแปรสภาพกลายเป็นอาวุธให้กับเราเพื่อสู้กับมอนโตโร่ได้ ถึงแม้จะมีพลังเทียบไม่ได้กับอาวุธดั้งเดิมแต่ก็น่าจะพอเป็นประโยชน์ให้เราได้บ้าง หลังจากนั้นเราจึงได้ออกเดินทางเพื่อคิดหาวิธีเพื่อที่จะช่วยเหลือเจอร์เก้น และกำจัดมอนโตโร่ให้ได้

############################################################################

แพทช์ 10.0 Ending of Montoro / วันชี้ชะตา และ จุดจบของมอนโตโร



หลังจากที่เจอร์เก้นได้กลายร่างเป็นปีศาจเต็มตัวและถูกมอนโตโร่ใช้ให้เฝ้าประตูหน้าปราสาทลูซิเฟอร์เพื่อป้องกันผู้บุกรุกเข้าปราสาท เราก็ได้พยายามหาวิธีเพื่อช่วยเหลือเจอร์เก้นแต่ก็ไม่เป็นผล เราจึงต้องกำจัดเจอร์เก้นในร่างปีศาจเพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณของเจอร์เก้นให้เป็นอิสระและไม่ต้องทนทุกข๋อีกต่อไป การต่อสู้เป็นไปอย่างยาวนานจนในที่สุดเราก็สามารถล้มเจอร์เก้นลงได้ เราก็ได้แต่เศร้าเสียใจและโกรธแค้นมอนโตโร่อย่างมากเราตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะกำจัดมอนโตโร่เพื่อไม่ให้มีคนต้องมาทนทุกข์ทรมาณอีก

เควส ทุบประตูนรก



ขณะนั้นเองเลโอเนลเรียกตัวเราเพราะได้ข่าวมาว่ามีการเคลื่อนไหวบางอย่างที่เมืองไวนรอนและต้องการให้เราไปตรวจสอบ ที่นั้นเองเราได้พบกับข่าวสารที่แสนน่ากลัว มอนโตโร่พยายามที่จะขโมยพลังโบราณของหอนาฬิกาไวรอนไปใช้ทำบางสิ่งบางอย่าง เราได้นำเอาเรื่องนี้ไปรายงานเลโอเนล เลโอเนลจึงได้ให้เราไปสำรวจหอนาฬิกาเมืองไวรอนโดยทันที

ในหอนาฬิกาเมืองไวรอน เราได้พบกับชิ้นส่วนความทรงจำของใครบางคนเข้า จึงได้เดินทางกลับมาหาเวโนรีฟเพื่อขอให้เธอใช้พลังในการเล่นแร่แปรธาตุตรวจสอบดูว่าชิ้นส่วนนี้เป็นความทรงจำของใคร เวโนรีฟใช้พลังในการแปรธาตุจึงได้เห็นเหตุการณ์ความทรงจำของคนที่เรารู้จักดี คนๆนั้นก็คือมอนโตโร่นั้นเอง

ภาพเหตุการณ์เป็นภาพที่มอนโตโร่อยู่บนชั้นสูงสุดของหอนาฬิกาไวรอนที่นั้นเขาได้พบกับ ออโต้บารอน หุ่นยนต์ที่สร้างจากเทคโนโลยีของอารยธรรมโบราณ มอนโตโร่จึงได้ทำการดึงพลังอารยธรรมโบราณจากหอนาฬิกาออกมา จนในที่สุดหุ่นยนต์ตัวนั้นก็สามารถขยับได้ มอนโตโร่ดีใจเป็นอย่างมากและได้ขโมยพลังของหอนาฬิกาไวรอนซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการที่เขาจะมีพลังที่ไร้ขีดจำกัด เมื่อเราได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด เวโนรีฟจึงให้เรารีบไปขัดขวางแผนการของมอนโตโร่ไม่อย่างนั้นจะต้องเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เราจึงได้นำเอาเรื่องนี้ไปรายงานเลโอเนล เลโอเนลเมื่อทราบเรื่องจึงให้เราล่วงหน้าไปก่อนเพื่อหยุดยั้งแผนการณ์ของมอนโตโร่แล้วเขาจะตามไปสมทบที่หลัง เราได้เดินทางมาหาราเวน เพื่อให้ราเวนนำทางไปที่ปราสาทลูซิเฟอร์ ราเวนตอบตกลงเขารอเวลาที่จะได้ล้างแค้นมอนโตโร่มานานมากแล้ว

ณ ปราสาทลูซิเฟอร์
เมื่อเข้ามาถึงที่นั้นเองเราได้พบกับสาวผมแดงปริศนา แกรนดิส อีกครั้ง เธอเข้าโจมตีเราทันทีเราไม่มีทางเลือกจึงต้องต่อสู้กับเธอแต่ด้วยเพราะฝีมือที่ร้ายกาจของแกรนดิส การต่อสู้จึงเป็นไปได้อย่างยากลำบาก เมื่อต่อสู้ไปได้สักพักแกรนดิสก็ได้หนีหายไป

เราเดินทางสำรวจในปราสาทลูซิเฟอร์ จนถึงห้องๆหนึ่งที่มีลักษณะเหมือนห้องทำงาน เราก็ได้พบกับเศษเสี้ยวความทรงจำอีกชิ้นหนึ่งด้วยความสงสัยเราจึงได้รีบนำมันกลับมาให้เวโนรีฟทันที เวโนรีฟใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุ เศษเสี้ยวความทรงจำก็ได้แสดงภาพเหตุการณ์ขึ้น ในภาพเหตุการณ์นั้น มอนโตโร่ได้ใช้พลังจากอารยธรรมโบราณของหอนาฬิกาไวรอน รวมกับไสยเวทย์มนต์ดำที่ทดลองมาทั้งหมดปลุกชีพ โพเทโร่ ปีศาจผู้ควบคุมกาลเวลาจนสำเร็จ โพเทโร่สาบานที่จะรับใช้มอนโตโร่จนกว่ามอนโตโร่จะตาย ซึ่งมอนโตโร่ต้องการที่จะใช้โพเทโร่ ดึงเอาพลังจากอารยธรรมโบราณมาให้ตนเองเพื่อที่จะได้เป็นอมตะและมีพลังอันยิ่งใหญ่จนไม่มีใครที่จะเทียบเท่าได้

เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว เวโนรีฟจึงให้เราไปรายงานเลโอเนลทันทีเพื่อหยุดยั้งสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่จะสายเกินไป เราได้ไปรายงานให้เลโอเนลฟังเลโอเนลเห็นถ้าไม่ดีจึงได้ระดมพล และให้เรารีบไปที่ปราสาทลูซิเฟอร์ก่อนเพื่อขัดขวางแผนการของมอนโตโร่

ณ ปราสาทลูซิเฟอร์
เราและราเวนเข้าปราสาทเพื่อตามหามอนโตโร่ให้พบ แต่ฟาเรลก็เข้ามาขัดขวางไว้ จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้นในที่สุดฟาเรลก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้และหนีไป เรากลับไปรายงานเลโอเนล ซึ่งทางเลโอเนลก็พร้อมแล้วที่จะต่อสู้กับมอนโตโร่ ทั้งหมดจึงเดินทางไปเพื่อหยุดยั้งแผนการณ์ที่ชั่วร้ายของมอนโตโร่ทันที

เควส วันชี้ชะตา



ณ บนดาดฟ้าของปราสาทลูซิเฟอร์
เราและผู้เกี่ยวข้องกับมอนโตโร่ทั้งหมด นำทีมโดย 1ใน10ขุนนาง ท่านฟลิต ได้ร่าวมกันพิพากษามอนโตโร่ว่ามีความผิดจริง ทว่ามอนโตโร่กลับไม่มีท่าทีตกใจเลยแม้แต่น้อย มอนโตโร่ได้พูดว่าทุกคนก็เป็นแค่ มด ปลวก เมื่อเทียบกับพลังอันยิ่งใหญ่ของเขา อีกทั้ง เมื่อถึงเวลาเขาจะย้ายวิญญาณของเขาปที่แกรนดิส สาวผมแดงปริศนา ที่มอนโตโร่ได้บอกความจริงอันน่าตกใจว่าเธอก็คือร่างโคลนนิ่งของแกรนม่าสมัยยังสาวนั้นเอง โดยใช้เลือดของแกรนม่า รวมกับพลังไสยเวทย์ของตัวเองสร้างร่างที่แข่งแกร่งขึ้นมาและมอนโตโร่ก็จะทั้งสวยและเก่งเป็นอมตะไปชั่วนิรันดร์ แกรนดิสได้รับรู้ถึงความจริงเรื่องทั้งหมดก็ตกใจจนช็อคไป

วันชี้ชะตา และ จุดจบของมอนโตโร ตอนที่2



ในที่สุดมอนโตโร่ก็แปลงร่างโดยใช้พลังโบราณจากโพเทโร่ เพื่อกำจัดทุกคนที่อยู่ที่นี่ เซลวาโกรธมากจึงเข้าโจมตีมอนโตโร่ทันที แต่ด้วยร่างสุดยอดของมอนโตโร่ พลังของเซลวาก็ไม่อาจทำอะไรมอนโตโร่ได้เลย มอนโตโร่เลยโจมตีกลับจนเซลวากระเด็นไป เมื่อเห็นอาจารย์ที่รักถูกทำร้าย กราเซียจึงเข้าต่อสู้ด้วย แบคโฮโกรธที่ถูกมอนโตโร่หลอกใช้ จึงเข้าต่อสู้ร่วมกับกราเซียแต่การโจมตีก็ไม่เป็นผล ท่านฟลิตจึงนำทุกคนเข้าไปช่วยโจมตีมอนโตโร่ในทันที มอนโตโร่ใช้พลังเวทย์โจมตีใส่จนทุกคนกระเด็นไป แกรนดิสได้สติขึ่นมาเธอเข้าโจมตีมอนโตโร่ด้วยความเสียใจและความโกรธแค้น ทั้งหมดจึงร่วมมือเข้าโจมตีมอนโตโร่พร้อมกัน




การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดและยาวนานจนในที่สุดมอนโตโร่ก็พ่ายแพ้แต่ก็ยังไม่ตาย ขณะนั้นเอง เบียทริกซ์ที่แอบเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ก็แสดงตัวออกมาและโจมตีเข้าใสมอนโตโร่โดยทันที มอนโตโร่สูญสิ้นพลังทั้งหมด เบียทริกซ์จึงได้เปิดเผยตัวเองต่อมอนโตโร่ว่าเธอเป็นลูกศิษย์ของ มาควิสเฮอร์นันเดซ หัวหน้าของ10ขุนนางแห่งเวสปาโนล่า ได้รับคำสั่งให้มากำจัดมอนโตโร่ เพราะคิดกบฎต่อมาควิสเฮอร์นันเดซนั้นเอง แต่เฮอร์นันเดซก็ฝากคำขอบใจกับมอนโตโร่เพราะการทดลองของมอนโตโร่วิเศษมากๆและเฮอร์นันเดซจะนำการทดลองของมอนโตโร่ไปใช้ต่อเองในอนาคต มอนโตโร่รู้สึกเจ็บแค้นอย่างถึงที่สุดก่อนที่จะตายไป ในที่สุดการต่อสู้อันยาวนานระหว่างเราและมอนโตโร่ก็สิ้นสุดลงเสียที

วันชี้ชะตา และ จุดจบของมอนโตโร ตอนที่3



เมื่อทุกอย่างจบลงเราได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของ องค์กรลับ ไวโอแลนเชี่ยน ที่มีไว้ต่อกรกับมอนโตโร่และ 10 ขุนนาง หัวหน้าสมาคมไวโอแลนเชี่ยนประกอบด้วย ท่านฟลิต / ขุนนางเอคอร์นี่ / แกรนม่า / ดร.ทอร์ช / ข้าราชการเดอร์มิงโก้ /ลอร์ด ออร์เทก้า ฟูรูโฮแลน / ดร.อูริค / เจราด โลแลน /อังเดร ทั้งหมดประชุมกันถึงการตายของมอนโตโร่ว่า จะมีผลกระทบอย่างไรต่อไปบ้าง และท่าทีของมาควิสเฮอร์นันเดซและแกรนดยุคฟิลิปเป้จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่เนื่องจากว่ายังไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ภายในประเทศเวสปาโนล่า ทางองค์กรก็เลยทำได้แค่เฝ้าดูสถาณการณ์ต่อไป

ข่าวการตายของ วิสเคาท์มอนโตโร่แพร่กระจายไปทั่ว ทั้งในทวีป Granadoespada และ ทวีป Orpersia ประเทศเวสปาโนล่าและประเทศบริสเทีย ต่างก็จัดการประชุมเพื่อหาจุดยืนต่อไปของประเทศตนเอง

1ปีต่อมา
หลังการตายของมอนโตโร่ ประเทศเวสปาโนล่า เนื่องจาก ตำแหน่ง 10 ขุนนางของเวสปาโนล่า ว่างไปหลายตำแหน่ง (โนเวียถูกขังอยู่ในหอคอยภูติหิมะ / คอร์เทสถูกสาปให้กลายเป็นหินเฝ้าใต้ปราสาทลูซิเฟอร์ / มอนโตโร่ตาย / ท่านฟลิตออกจากตำแหน่ง ) ดังนั้น ทางเวสปาโนล่าจึงได้ทำการแต่งตั้ง 10 ขุนนางขึ้นมาใหม่ ประเทศบริสเทียใช้ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเวสปาโนล่าในขณะนี้ ด้วยการนำของผู้บัญชาการสูงสุดของบริสเทีย ลอร์ด ซีซินี่ คิเอเซ่ ประกาศเปิดเส้นทางสู่ Granadoespada เพื่อบุกเบิกดินแดนใหม่อีกครั้ง ซึ่งถูกต่อต้านอย่างมากจากประชาชนและเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงในประเทศบริสเทีย

############################################################################

เจ้าชายแห่งนํ้าแข็ง ไอออน ฟิลิปเป้ (ความรัก/ดราม่า/พ่อตาVSลูกเขย)

เนื้อเรื่องตัวละคร ไอออน



ในอดีต ณ องค์กรลับที่ใช้ฝึกฝนนักฆ่า ของ หัวหน้า 10 ขุนนาง เฮอร์นันเดซ
แกรนดยุคฟิลิปเป้ ได้ส่งลูกชายของเขา ไอออนให้ไปฝึกฝนการใช้พลังเวทย์มนต์กับ เฮอร์นันเดซ เพื่อหวังให้เอียนนั้นมีความสามารถด้านเวทย์มนต์เท่าเทียมกับ เฮอร์นันเดซ ซึ่งถูกขนานนามว่าจอมเวทย์ที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ด้วยความที่ไอออนถึงแม้จะเกิดมาพร้อมพลังเวทย์มนต์แต่ก็ไม่ได้มีมากมายมหาศาล การฝึกฝนจึงเป็นไปด้วยความยากลำบากไอออนมักเสียใจและร้องไห้คนเดียวอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งเขาได้พบหญิงสาวคนหนึ่ง ที่เข้ามาคุยกับเขา หญิงสาวคนนั้นมีชื่อว่าแคทเทอรีน แคทเทอรีนเห็นไอออนร้องไห้บ่อยๆจึงเรียกไอออนว่า "เจ้าเด็กขี้แย"



เพราะได้กำลังใจจากแคทเทอรีน ไอออนจึงมุ่งมั่นฝึกฝนพลังเวทย์มนต์ จนเก่งกาจ ส่วนแคทเทอรีนก็ฝึกฝนศิลปะการใช้มีดจนชำนาญทั้ง 2 คนเหมาะสมกันอย่างมาก เฮอร์นันเดซจึงคิดแผนการเพื่อหวังจะผูกสัมพันธ์รวมกับ แกรนดยุค ฟิลิปเป้ จึงได้บอก แกรนดยุคฟิลิปเป้ว่าแคทเทอรีนนั้น เป็นลูกสาวของตนเอง และรู้สึกว่าไอออน ก็มีความรักในตัวแคทเทอรีนอยู่พอสมควร แกรนดยุคฟิลิปเป้ หวังใช้ความสามารถของ เฮอร์นันเดซในการที่จะยึดอำนาจจากราชินีเอสเปอรันซ่า จึงได้จัดให้ไอออนและแคทเทอรีน หมั้นหมายกัน เฮอร์นันเดซ จึงได้เลื่อนขั้นเป็นมาควิสเฮอร์นันเดซ อีกด้วย

หลังจากแคทเทอรีนโตขึ้น มอนโตโร่ ได้ขอแคทเทอรีนไปอยู่เป็นนักฆ่าประจำตัวซึ่ง เฮอร์นันเดซก็ไม่ได้ขัดข้อง แคทเทอรีนจึงได้หายไปจากชีวิตของไอออน ด้วยความคิดถึง รวมกับได้รับรู้เรื่องราวต่างๆของพ่อและอาจารย์ของตัวเอง จึงได้หลบหนีออกมา โดยเดินทางไปยังเมืองไวรอนเพื่อไปหาแคทเทอรีนเพราะได้ยินมาว่ามอนโตโร่ในตอนนี้พักอยู่ที่ปราสาทลูซิเฟอร์ แต่เมื่อไปถึงก็ถูกเวทย์มนต์ของมอนโตโร่ลบความทรงจำและให้มายินอยู่ที่ท่าเรือไวรอนจนพบกับเรา

เราเข้าไปหาเอียนเพื่อสอบถาม แต่ไอออนโดนคำสาปของมอนโตโร่จนจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ขณะนั้นเอง ดร.ทอนร์ชได้ส่งจดหมายมาหาเราเพื่อขอให้เราเข้าไปพบ เราเดินทางไปหา ดร.ทอร์ชที่คฤหาสน์ ดร.ทอชก็ได้เล่าถึงอาการของแคทเทอรีนที่เกิดจากเวทย์มนต์ของมอนโตโร่และเฮอร์นันเดซ ทำให้เธอเกิดผลกระทบต่อจิตใจของแคทเทอรีน ขณะนั้นเองเราได้พูดถึงเรื่องไอออนขึ้นมา ดร.ทอร์ชคุ้นชื่อนี้มากพยายามที่จะนึกว่า เคยได้ยินที่ไหน ซึ่งแคทเทอรีนเข้ามาในห้องพอดี จึงพูดขึ้นมาว่า ไอออน ฟิลิปเป้ ดร.ทอช ตกใจมากแล้วถามว่าแคทเทอรีนมาตั้งแต่เมื่อไร แต่แคทเทอรีนพยายามจะนึกเรื่องของ ไอออนขึ้นมา แต่ก็นึกไม่ออก จนอาการทางจิตกำเริบ หมดสติไป ดร.ทอร์ช โกรธมอนโตโร่ เป็นอย่างมากและข้อร้องให้เราช่วยไปหายาบำรุงกำลังเพื่อรักษาแคทด้วย ซึ่งน่าจะมีขายที่เมืองไวรอน เรารับปากว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่

เราเดินทางไปที่เมืองไวรอน แต่ทว่า ยาบำรุงกำลังขาดตลาด แต่แม่ค้าก็แนะนำว่าพี่สาวของเธอน่าจะยังมีอยู่แต่ด้วยนิสัยของพี่สาวเธอคงไม่ยอมขายยาให้ง่ายๆแน่ เราไม่มีทางเลือกจึงเดินทางไปหาพี่สาวของแม่ค้าคนนั้น เมื่อเราไปถึง ก็จริงอย่างที่แม่ค้าคนนั้นพูด เธอจะยอมขายให้ก็ต่อเมื่อเธอได้สิ่งของที่ต้องการ ซึ่งเรารับปากว่าจะหามาให้เพื่อแลกกับการซื้อยานั้น เธอจึงให้เราไปหาหนังสือโบราณ 3 ชนิดที่ตอนนี้เป็นที่ต้องการของตลาดอยู่ เราจึงไปหามาให้เธอ เมื่อเรานำมันมาให้เธอ เธอดีใจอย่างมากและมอบยาให้เราฟรีๆโดยไม่คิดเงิน และให้เรานำยานี้ไปช่วยคนที่ต้องการช่วยโดยทันที

เราเดินทางกลับมาหา ดร.ทอร์ชเพื่อนำยามาให้ ดร.ทอร์ชปรุงยาเสร็จก็ให้แคทเทอรีนดื่ม เมื่อแคทเทอรีนตื่นขึ้นมา ก็นึกเรื่องของไอออนออก และจะเดินทางเพื่อไปพบกับไอออน ดร.ทอร์ชไม่ให้เธอไป เพราะไอออนนั้นเป็นลูกชายของแกรนดยุค ฟิลิปเป้ แห่งเวสปาโนล่า และถือว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องร้ายๆทั้งหมดนี้ แคทรู้ความจริงข้อนี้ดี แต่ยังไงแคทเทอรีนก็ต้องการจะไปพบไอออนให้ได้ ดร.ทอร์ชเลยขู่ว่าถ้าแคทเทอรีนไป ดร.ทอร์ชจะฆ่าตัวตาย แต่แคทไม่ได้สนใจฟังคำพูดของพ่อและออกเดินทางไปหาเอียนทันที ดร.ทอร์ชเสียใจอย่างมากและขอร้องให้เรา ไปคอยดูแลแคทเทอรีนด้วย หาก ไอออนทำอะไรที่เป็นภัยกับแคทเทอรีน ให้ฆ่าเขาได้ทันที นั้นก็เพื่อปกป้องแคทเทอรีนนั้นเอง

แคทเทอรีนเดินทางมาหาไอออนที่ไวรอน ทั้งคู่ต่างมองหน้ากัน แคทเทอรีนจึงเรียกไอออนว่า “เจ้าเด็กขี้แย” แบบในอดีตแต่ไอออนได้บอกว่า เขาไม่ใช่เด็กขี้แย อีกต่อไปแล้ว ไอออนพูดถึง ดร.ทอร์ชขึ้นมาและได้รู้ความจริงของเรื่องทั้งหมดแล้ว เลยอยากไปพบ ดร.ทอร์ชสักครั้งเพื่อขอโทษในสิ่งที่พ่อและอาจารย์ของเขาได้ทำลงไป แต่แคทเทอรีนได้ห้ามไว้เพราะถ้าไป ดร.ทอร์ชจะต้องฆ่าไอออนแน่ๆ แคทเทอรีนนั้นแค่มาเพื่ออยากเจอหน้าไอออนอีกสักครั้งแค่นั้น ก่อนที่เธอจะกลับ เธอจึงได้บอกให้ไอออนกลับไปที่ๆตนสมควรอยู่ซะเถอะ เจ้าชายแห่งเวสปาโนล่า คำพูดนี้ทำให้ไอออนต้องอึ้งไป

หลังจากแคทเดินทางกลับไปแล้ว ไอออนพยายามถามถึงสาเหตุว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแคทเทอรีน เราเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังไอออนเมื่อได้ฟังความจริงจึงยิ่งอยากไปพบกับ ดร.ทอร์ช แต่เราไม่สามารถพาได้ ไอออนจึงขอร้องให้เราส่งจดหมายฉบับนี้ไปให้ ดร.ทอร์ชที เมื่อเราไปถึง คฤหาสน์ ดร.ทอร์ช ดร.ทอร์ชถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น แคทเทอรีนกลับมาก็เอาแต่นิ่งไม่พูดใม่จา เราเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังพร้อมทั้งส่งจดหมายของไอออนให้ดร.ทอร์ช ซึ่งในจดหมาย ไอออนได้ขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นและอยากขอพบ ดร.ทอร์ชและแคทเทอรีน เพราะว่าเขานั้นรักแคทเทอรีนจากใจจริงๆของเขาเอง

ดร.ทอร์ชได้อ่านจดหมายจึงโกรธและบอกว่า ไอออนไม่มีทางที่จะรักแคทเทอรีนอย่างแน่นอน และให้เรากลับไปบอกเขาว่า เขาและแคทเทอรีนไม่ต้องการเห็นหน้าไอออนอีกตลอดชีวิต
เราเดินทางกลับไปหาไอออน เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟัง ไอออนเลยบอกเขาเข้าใจดีว่า ดร.ทอร์ชที่ไม่ยอมรับเขานั้นก็เพราะเขาเป็นลุกชายของ แกรนดยุคฟิลิปเป้ แถมยังเป็นศิษย์ของ มาควิสเฮอร์นันเดซอีกด้วย เขารู้ว่าทั้ง 2 ได้ทำอะไรลงไปกับ ดร.ทอร์ชบ้าง ซึ่งตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น จนในที่สุดเมื่อได้รับรู้ความจริงทั้งหมด

เราถามว่าไอออนจะเอายังไงต่อไปดี ไอออนบอกเขาไม่สามารถหันหลังกลับไปได้อีกแล้ว ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้เขาก็พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองให้เราและ ดร.ทอร์ชได้เห็นว่าเขานั้นมีความรักที่มั่นคงกับแคทเทอรีน จริงๆ และขอติดตามเราไปด้วยโดยสัญญาว่าจะไม่รบกวนเราอย่างเด็ดขาด ซึ่งเราก็รับไอออนเข้ามาในตระกูลเพื่อให้เขาได้พิสูจน์ตนเอง

เควสสแตนซ์ ฟรอสท์ / Frost



หลังจากนั้นไอออนขอแยกตัวเพื่อเดินทางไปที่ๆหนึ่ง นั้นก็คือทุ่งราบหิมะ เพื่อไปพบกับจ้าวแห่งเวทย์น้ำแข็งเอลมอคนั้นเอง เมื่อไปถึงไอออนได้ขอให้เอลมอคมอบพลังเวทย์แห่งน้ำแข็งให้กับเขา เพราะเขามั่นใจว่าเขาสามารถใช้พลังนี้ได้ เอลมอครู้สึกถึงความมุ่งมั่นของไอออนจึงได้ให้ไอออนไปหาสัญลักษณ์ราศีปูมาให้เอลมอคก่อน แล้วเอลมอคถึงจะยอมมอบพลังเวทย์น้ำแข็งให้ ไอออนตกลง หลังจากไอออนไปหาสัญลักษณ์ราศีปูมาให้เอลมอคเพื่อพิสูจน์ถึงความตั้งใจแล้ว เอลมอคเลยมอบพลังเวทย์ส่วนหนึ่งให้ไอออน ไอออนรับรู้ได้ทันทีเลยว่าตัวเองมีพลังเพิ่มขึ้นและพลังนี้จะช่วยให้เขาใช้พิสูจน์ตนเองได้อย่างแน่นอน

############################################################################

เพิ่มเติมเนื้อเรื่องบางส่วน
- 10ขุนนางแห่งเวสปาโนล่า ในที่สุดก็เฉลยออกมาแล้วในตอนท้ายของแพทช์ 10.6 โดยมีดังต่อไปนี้

ขุนนางอันดับที่ 1 แกรนดยุค ฟิลิปเป้ ผู้ครองเมืองฟิลิปเป้
ขุนนางอันดับที่ 2 มาควิส เฮอร์นันเดซ จอมเวทย์ที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งเวสปาโนล่า
ขุนนางอันดับที่ 3 ท่านฟลิต ยอดสุภาพบุรุษแห่งเวสปาโนล่า
ขุนนางอันดับที่ 4 แกรนม่า ราชินีแห่งนักสำรวจ
ขุนนางอันดับที่ 5 ลอร์ด ฟูรูโฮแลน ผู้นำตระกูลฟูรูโฮแลนแห่งเวสปาโนล่า
ขุนนางอันดับที่ 6 โนเวีย จอมเวทย์สาวผู้มีความงดงาม
ขุนนางอันดับที่ 7 ลอร์ด คอร์เทส ผู้สืบเชื้อสายจอมเวทย์โบราณ
ขุนนางอันดับที่ 8 วิสเคาท์ มอนโตโร่ จอมเวทย์แห่งความตาย
ขุนนางอันดับที่ 9 ดร.ทอร์ช อัจฉริยะแห่งเวสปาโนล่า
ขุนนางอันดับที่ 10 ดร.อูริค เทพแห่งการอัญเชิญ

ซึ่งหลังจากการตายของ วิสเคาท์มอนโตโร่ รวมไปถึง10ขุนนางตอนนี้เหลือเพียงแค่ แกรนดยุคฟิลิปเป้/มาควิสเฮอร์นันเดซ/แกรนม่า/ลอร์ดฟูรูโฮแลน (ดร.ทอร์ช/ดร.อูริค/ท่านฟลิต ในเวสปาโนล่าถือเป็นบุคคลที่หายสาปสูญเพราะไม่เห็นด้วยกับแนวทางของ10ขุนนางจึงหนีมา - ส่วนโนเวีย/คอร์เทส ถือว่าตายไปแล้วเพราะเป็นปีศาจไปแล้ว) ดังนั้นมาควิสเฮอร์นันเดซจึงได้โน้มน้าวใจราชินี โดยใช้เหตุผลที่ว่าเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความกลัวที่ 10ขุนนางซึ่งถือเป็นขุนนางชั้นสูงและมีความเก่งกาจที่สุดในเวสปาโนล่า ต้องเหลือเพียงแค่ 4 คน ราชินีปห่งเวสปาโนล่าจึงประกาศยุบ 10 ขุนนางทั้งหมดและแต่งตั้ง 10 ขุนนางขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะเป็นใครบ้างนั้นคงต้องรอดูในแพทช์ ประเทศเวสปาโนล่า

############################################################################

แกรนดิส สาวผมแดงปริศนาผู้น่าสงสาร (มหากาพย์ดราม่า/ความมุ่งมั่นของสาวผมแดงจะทำให้ชีวิตเธอเป็นเช่นไรต่อไป)

เนื้อเรื่องตัวละคร แกรนดิส



หลังจากที่วิสเคาท์มอนโตโร่ตาย เรื่องทุกอย่างเหมือนจะจบลง ทว่า เราเป็นห่วงสาวผมแดงปริศนาแกรนดิสว่าเธอจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร เราจึงออกเดินทางไปหาราเวนเพื่อสอบถามว่าแกรนดิสตอนนี้อยู่ที่ไหน ราเวนคิดว่าเธอก็น่าจะยังทำหน้าที่เฝ้าปราสาทลูซิเฟอร์อยู่ เราจึงออกเดินทางไปที่ปราสาทลูซิเฟอร์เพื่อพบแกรนดิสอีกครั้งหนึ่ง เราได้พบแกรนดิสที่กำลังยืนใจลอยนึกถึงบางสิ่งบางอย่างอยู่ เราจึงเข้าไปทักเธอทันที

เราได้สอบถามถึงประวัติความเป็นมาของเธอแต่เธอก็จำได้แค่เพียงว่า เธอเดินมาสำรวจทวีปใหม่พร้อมกับแกรนดยุคฟิลิปเป้และเดินทางกลับโดยนั่งเรือที่ท่าเรือโคอิมบราพร้อมกัน ซึ่งในช่วงนั้น บริสเทียและเวสปาโนล่ายังสู้รบกันอยู่เพื่อแย่งชิงดินแดนใหม่แห่งนี้ (น่าจะก่อนยุคสงคราม 3 ปี) เมื่อกลับปถึงเวสปาโนล่า แกรนดยุคฟิลิปเป้ต้องการที่จะครอบครองทวีปใหม่จึงสั่งให้แกรนดิสเข้าสู้รบและฆ่าพวกบริสเทียให้หมดเพื่อจะได้นำชัยชนะมาให้ตนเอง แกรนดิสรู้สึกว่าแกรนดยุคฟิลิปเป้เป็นคนที่อำมหิตและหวาดกลัวว่าสักวันหนึ่ง ลูกสาวของเธอจะต้องตกเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในการขู่บังคับเธอทำเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในตัวลูกสาว แกรนดิสจึงต้องตัดใจแม้เธอจะยังรักแกรนดยุคฟิลิปเป้อยู่ แต่ก็ต้องตัดสินใจออกเดินทางเพื่อหลบหนีมายังทวีปใหม่แห่งนี้ทันที เมื่อมาถึงเพื่อปกป้องลูกสาวของตัวเอง จึงได้เดินทางไปที่เมืองรีโบโดวซ์เพื่อขอพบกับคลูซซึ่งเป็นเพื่อนที่รวมรบกันมา และน่าจะไว้ใจได้มากที่สุด แกรนดิสเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังและขอร้องให้คลูซรับลูกสาวของเธอเป็นลูกบุญธรรม เพื่อที่แคล์จะได้ไม่เป็นอันตรายและไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก คลูซตัดสินใจรับลูกสาวของแกรนดิสเป็นลุกบุญธรรม และตั้งชื่อให้ว่า แคล์ และสัญญาว่าจะเลี้ยงลูกของแกรนดิสให้ดีเหมือนเป็นลูกสาวแท้ๆของตัวเอง จากนั้นแกรนดิสก็ใช้ชีวิตอย่างนักสำรวจในทวีปใหม่ต่อไป ซึ่งเธอมีความทรงจำได้เพียงแค่นั้น

** ปล.อันนี้เป็นเนื้อเรื่องเสริมต่อจากความทรงจำของแกรนดิส หลังจากนั้นแกรนดิสได้ยื่นหนังสือไปที่ราชินีเอสเปอรันซ่า เพื่อขออนุญาตสำรวจที่ทวีปใหม่แห่งนี้บริเวณ ป่าดงดิบลึกเข้าไปในทวีปซึ่งยังไม่มีผู้ใดเคยสำรวจถึงมาก่อน หลังจากที่ราชินีเอสเปอรันซ่าได้รับข้อความนั้นแล้วจึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่แกรนดิสไม่กลัวความยากลำบากและตั้งใจสำรวจในบริเวณที่ยังไม่มีคนไปถึง ราชินีเอสเปอรันซ่าจึงได้มอบฉายา แกรนม่า ราชินีนักสำรวจ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พร้อมทั้งมอบ กองทหารเรสคิวไนท์เพื่อช่วยแกรนม่า ในการสำรวจที่เขตป่าดงดิบอัสทิวป์ อีกด้วย เมื่อมีคำสั่งโดยตรงจากราชินีให้สำรวจทวีปใหม่ แกรนดยุคฟิลิปเป้ จึงยอมตัดใจจากแกรนม่าและไม่ไปยุ่งกับเธออีกเลยนับแต่นั้น **

เราจึงช่วยแกรนดิสตามหาความทรงจำของเธอเพื่อที่เธอจะได้ประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมด หลังจากช่วยเหลือเธอในการรื้อฟื้นความทรงจำต่างๆ แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนไม่เป็นผล แล้วเธอก็นึกถึงแกรนดยุคฟิลิปเป้ที่ยังอยู่เมืองไวรอนละ ด้วยความเข้าใจผิดเธอเห็นเอียนเป็นแกรนดยุคฟิลิปเป้ (คงเพราะรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน) เธอจึงขอร้องให้เราพา เอียนมาพบกับเธอ

เราได้พาเอียนมาพบกับแกรนดิส ที่รู้สึกได้ว่าเขาต้องใช่ แกรนดยุคฟิลิปเป้ คนรักของเธอแน่ๆ ด้วยความคิดถึงจึงได้พาเอียนมาที่โคอิมบรา เพื่อหวังจะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่ท่าเรือโคอิมบราด้วยกันอีกสักครั้งแบบในอดีต ทว่าเมื่อมาถึงโคอิมบราเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอเริ่มรู้สึกสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทว่าขนาดนั้นเอง แคทเทอรีน ทอร์ช หวังจะมาพบเอียนก็เจอเหตุการณ์นี้เข้าพอดี แคทเทอรีนเข้าใจผิดเรื่องเอียนและแกรนดิส จึงได้เสียใจและหนีไป เอียนจึงรีบตามแคทเทอรีนไป

แกรนดิสเริ่มสับสน เธอจึงต้องการที่จะพบคลูซกับแคล์ อีกครั้งหนึ่งเพื่อที่ว่าเธอน่าจะสามารถรื้อฟื้นความทรงจำได้ เราพาเธอไปพบกับคลูซ คลูซได้รู้ความจริงเรื่องของแกรนดิสแล้วว่าเป็นตัวโคลน จึงไม่ต้องการให้เธอได้พบกับแคล์เป็นอันขาด จนเราต้องขอร้องคลูซให้บอกเรื่องแคล์ให้เธอรู้เพื่อช่วยเหลือชีวิตของเธอ ด้วยเห็นแก่เราและความใจอ่อน คลูซจึงบอกแกรนดิสว่าแคล์ตอนนี้เปิดร้านอยู่ที่เมืองอุช แกรนดิสดีใจอย่างมากและรีบออกเดินทางไปเมืองอุชทันที

แต่ทว่าเมื่อไปถึง เธอก็ได้รับรู้ความจริงว่าเวลาผ่านมานานมาก แคล์ในความทรงจำของเธอกับตอนนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง แคล์โตขึ้น จนทำให้เธอรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง เธอจึงเริ่มคิดว่าหรือเรื่องที่มอนโตโร่พูดนั้นเป็นเรื่องจริง เธอคือร่างโคลนของคนอื่นจริงๆ สิ่งต่างๆทั้งหมดไม่ใช่ความรู้สึกของเธอแต่เป็นความรู้สึกของร่างต้นแบบของเธอนั้นเอง แกรนดิสเข้าใจเรื่องทั้งหมดและอยากไปพบแกรนม่า ร่างต้นแบบของเธอสักครั้งซึ่งเธอขอตืดตามเราไปด้วยเพื่อให้เราพาเธอไปพบกับแกรนม่าในตอนนี้ที

เควสสแตนซ์ โซล การ์ด / Soul Guard



เราพาแกรนดิสไปพบกับแกรนม่าที่ค่ายทหารอัสทิว แกรนม่าไม่ต้องการเห็นหน้าแกรนดิส เพราะยังคงเจ็บแค้นมอนโตโร่ ที่ใช้เลือดของเธอไปสร้างเครื่องมือที่ใช้ฆ่าคน ทว่าแกรนดิสมาเพื่อต้องการให้แกรนม่ายอมรับในตัวเธอ ถ้าหากแกรนม่าซึ่งเป็นร่างต้นแบบไม่ยอมรับในตัวเธอแล้วเธอก็พร้อมที่จะตาย แกรนม่ารู้สึกประหลาดใจจึงได้เข้าต่อสู้กับแกรนดิส แกรนดิสเพื่อแสดงความตั้งใจและต้องการให้แกรนม่ายอมรับในตัวเธอ จึงเข้าต่อสู้กับกรนม่า ในระหว่างที่สู้กันนั้นเอง แกรนม่าเห็นถึงความแตกต่างระหว่างตัวเธอกับแกรนดิส นั้นคือแกรนดิสจะเน้นในการต่อสู้และมีการปกป้องตัวเองไปด้วย ต่างกับแกรนม่าที่ต่อสู้โดยไม่สนใจว่าร่างกายจะเป็นอย่างไร เมื่อเห็นถึงความแตกต่างและความแน่วแน่ในจิตใจของแกรนดิส จึงหยุดการต่อสู้ลง แกรนม่ายอมรับและยกชื่อ แกรนดิสให้ เพราะเธอตอนนี้ไม่ต้องใช้มันแล้ว และ สอนทักษะการต่อสู้ในสมัยยังสาวให้กับเธออีกด้วย (แสตนโซลการ์ด) และขอให้แกรนดิสมีชีวิตต่อไป เพราะแกรนดิสได้พิสูจน์แล้วว่าถึงเธอจะเป็นร่างโคลนแต่เธอก็มีจิตใจเป็นของตัวเอง แกรนดิสดีใจอย่างมากที่แกรนม่ายอมรับตัวเธอ เธอพร้อมจะสู้ต่อไปในทวีปใหม่แห่งนี้


############################################################################

ยังมีต่อนะคับ ว่างๆจะอัพเดทให้อ่านกันอีก

2 ความคิดเห็น:

  1. สุดยอดเลยครับ ผมชอบเรื่องราวของเกมนี้มากๆ
    ไม่คิดว่าจะมีคนนำมาต่อๆ กันให้ได้อ่านโดยละเอียดแบบนี้ครับ ตื่นเต้นมาก
    ตัวผมเองพึงเล่นได้ไม่นาน เควสค่อยๆ ไปเพราะกำลังหาชุดดีดีมาช่วยให้ผ่านเควสได้ [ELN]
    ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีดีเช่นนี้ครับ ผมจะรอติดตามต่อไปนะครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่มีต่อแล้วหรอครับ อยากรู้เรื่องราวของ ออเดน เมืองบีเดลไรงี้

    ตอบลบ